Football Sponsored

เป๊ปโต้คล็อปป์เรื่องทุ่มซื้อนักเตะ “ถ้าไม่เห็นด้วย ก็ไปฟ้องศาล” – Goal.com

Football Sponsored
Football Sponsored

กุนซือชาวสเปนตอบโต้เสียงวิจารณ์จากเฮดโค้ชลิเวอร์พูล ที่พูดถึงการทุ่มเงินซื้อนักเตะในตลาดหน้าร้อนนี้ของทางแมนเชสเตอร์ ซิตี้

เป๊ป กวาร์ดิโอลา เฮดโค้ชแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตอบโต้คำพูดของเยอร์เกน คล็อปป์ กุนซือลิเวอร์พูล ที่พูดถึงการซื้อนักเตะของทีมเรือใบสีฟ้า ว่าเหมือนไม่มีข้อจำกัด แม้ทั้งโลกจะเผชิญภาวะเศรษฐกิจตกต่ำเพราะโควิด-19

กุนซือชาวเยอรมันของทีมหงส์แดง เพิ่งพูดถึงสาเหตุที่ทีมของเขาไม่ได้ทุ่มเงินซื้อนักเตะเหมือนเช่นเรือใบสีฟ้าในหน้าร้อนนี้ ว่าเป็นเพราะสถานการณ์ปัจจุบัน ทำให้พวกเขามีข้อจำกัดในการใช้เงิน ซึ่งแตกต่างจากทีมแมนฯ ซิตี้ ที่ดูเหมือนจะใช้จ่ายได้อย่างไม่มีข้อจำกัดใดๆ

อย่างไรก็ดี เป๊ปได้ตอบโต้ข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยบอกว่าทีมของเขาก็ต้องอยู่ภายใต้กฎไฟแนนเชียล แฟร์ เพลย์ เช่นเดียวกับลิเวอร์พูล เพียงแต่พวกเขามีเจ้าของทีมที่ดี และพร้อมจะจ่ายเงินให้อย่างสม่ำเสมอเท่านั้น

Editor Picks

  • โปรแกรมถ่ายทอดสดฟุตบอล – ดูบอลสดคืนนี้ (พรีเมียร์ลีก, ไทยลีก, ลาลีกา, บุนเดสลีกา, แชมเปี้ยนส์ลีก, ฯลฯ)
  • ยอดดาวยิง! ใครคือผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของพรีเมียร์ลีก?
  • IN NUMBERS : ลิโอเนล เมสซี ยิงได้กี่ประตูในชีวิตค้าแข้ง?
  • ใครคุ้มกว่า? ท็อป 18 ดีลสลับขั้วตลาดนักเตะยุโรป

“เจ้าของทีมบางคนก็อยากได้กำไร แต่เจ้าของทีมของเราไม่ได้อยากได้กำไร เราก็เลยลงทุนเท่าที่เราทำได้ ขณะที่พวกเขาไม่ได้ลงทุนกับทีม” กวาร์ดิโอลากล่าว

“ก่อนหน้านี้ ก็มีแค่ 1 หรือ 2 สโมสร ตอนนี้มีเชลซีกับโรมัน อับราโมวิช แล้วก็สโมสรของเรากับ ชีค มันซูร์ พวกเขาอยากจะลงทุนในสโมสรฟุตบอล ปัญหามันคืออะไรละ? เราก็มีข้อจำกัดเรื่องไฟแนเชียล แฟร์ เพลย์ อยู่แล้ว ถ้าพวกเขาไม่เห็นด้วยกับการซื้อตัวของเรา พวกเขาก็ไปร้องเรียนที่ศาลได้เลย

“เราซื้อแจ็ค กรีลิช เพราะเราขายนักเตะของเรารวมได้ 60 ล้านปอนด์ ในท้ายที่สุด เราก็จ่ายไปแค่ 40 ล้านปอนด์ เราทำตามกฎอย่างชัดเจน ในสโมสรของเรา เจ้าของเงินไม่ได้อยากเสียเงินไปเปล่าๆ แต่พวกเขาพร้อมจะลงทุน เราก็เลยทำได้

“เมื่อหลายปีก่อน ตอนที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้แชมป์ไปมากมาย มันก็เป็นเพราะพวกเขาใช้จ่ายเงินไปมากกว่าสโมสรอื่นๆ คุณจำได้ไหมละ? ในตอนนั้น แมนฯ ซิตี้ ก็ทำไม่ได้ เพราะเราไม่ได้มีเจ้าของทีมเหมือนอย่างที่เรามีตอนนี้”

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.