Football Sponsored

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดตัวกองกลางทีมชาติไทยร่วมทัพบู๊ไทยลีก – คมชัดลึก

Football Sponsored
Football Sponsored

สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์  ยูไนเต็ด   ปราสาทสายฟ้า” ทีมในไทยลีก 1  ได้เปิดตัวผู้เล่นใหม่ที่เสริมเข้าสู่ทีมประจำฤดูกาล 2021/2022 ประกอบด้วย  พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี    กองกลางจาก สมุทรปราการซิตี้  และ ทีมชาติไทย ,  ชุติพนธ์ ทองแท้  จาก พีทีประจวบ  เอฟซี และ นิรันดร์ มีมาก จาก ชลบุรี  เอฟซี 

พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี    กองกลางจาก สมุทรปราการซิตี้  และ ทีมชาติไทย  เจ้าของเสื้อหมายเลข 5 “ ปราสาทสายฟ้า”  ปัจจุบันอายุ 29 ปี เริ่มต้นเส้นทางฟุตบอลกับ โรงเรียนเทพศิรินทร์ เข้าสู่ฟุตบอลอาชีพในปี 2012    ด้วยการเล่นให้กับ   จามจุรี ยูไนเต็ด   ทีมในลีกภูมิภาค อยู่กับทีม 3 ปี ลงสนามไป 38 เกม ยิงไป 6 ประตู  จากนั้นปี 2015    ร่วมงานกับ เอสซีจีเมืองทอง ยูไนเต็ด  ก่อนจะถูกปล่อยไปตัวให้ พัทยา ยูไนเต็ด ที่เป็นทีมพันธมิตรยืมตัวไปใช้งาน โดยลงเล่นให้กับทั้ง 2 ทีม รวมกัน 69 นัด   ทำไป  16 ประตู

ต่อมาในปี 2018 พัทยา ยูไนเต็ด ได้เปลี่ยนชื่อเป็น สมุทรปราการ ซิตี้ เริ่มเจรจาคว้าตัว พีรดนย์ มาร่วมทัพอย่างถาวร  ในปี 2019 จนถึงฤดูกาล 2020/2021   ตลอด 3 ฤดูกาล  ลงเล่นให้ สมุทราปราการซิตี้  94  นัด  ยิงไป 23 ประตู   เล่นให้กับทีมชาติไทย   ตั้งแต่ปี 2010 ชุดอายุไม่เกิน 20 ปี และอายุไม่เกิน 23 ปี ตามลำดับ ก่อนที่จะก้าวมามีชื่อติดทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ปี 2017 จนถึงปัจจุบัน กระทั่งมาร่วมงามกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดฤดูกาล 2021/2022 ที่จะเปิดฤดูกาลในเดือนกันยายน

ขณะเดียวกัน   บุรีรัมย์ยูไนเต็ด  ยังเปิดตัว ชุติพนธ์ ทองแท้ กองกลาง  สำหรับ ชุติพนธ์ ทองแท้   ปัจจุบัน อายุ 30 ปี   เริ่มต้นเล่นฟุตบอล และเป็นที่รู้จักเมื่อเล่นให้ วิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการราชดำเนิน ก่อนที่  “ปราสาทสายฟ้า” จะดึงตัวมาเข้าสู่รั้วอะคาเดมี ในปี 2009   จนได้ร่วมงานกับ บุรีรัมย์ เอฟซี คว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 ในปี 2011 โดยเป็น ”นักรบลาวาเพลิง รุ่นสุดท้าย” ก่อนจะรวมทีมเป็นบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

จากนั้น    ชุติพนธ์ ทองแท้   ไปร่วมงานกับ  บีบี ซียู เอฟซี  ลงสนามช่วยทีมไป 13 เกม ยิงไป 2 ประตู ในเลกแรกของฤดูกาล 2013 ก่อนจะถูก ราชบุรี เอฟซี   ดึงตัวไปร่วม  และปักหลักเป็นแกนกลางของทีมกว่า 6 ปี ลงสนามไป 171 เกม ยิงไป 11 ประตู    เดือนมิถุนายน 2019 หลังจากหมดสัญญากับ “ราชันมังกร” ราชบุรี  เอฟซี ชุติพนธ์ ได้ไปร่วมกับ สุพรรณบุรี เอฟซี ตลอดฤดูกาลลงสนามช่วยทีมไป 20 นัด จากนั้นปี 2020 ได้โยกไปร่วมทัพกับ ประจวบ เอฟซี ลงสนามให้ทีมไป 10 นัด ยิง 1 ประตู ก่อนที่จบฤดูกาลสัญญาจะหมดกับทีม และมาร่วมงานกับ  บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด  โดยนักฟุตบอลรายนี้ จะสวมเสื้อหมายเลข 11 ลงสนามให้กับทีม

ทั้งนี้ กองกลาง เจ้าของส่วนสูง 173 เซนติเมตร เคยติดทีมชาติ ชุดอายุไม่เกิน 23 ปี คว้าเหรียญทอง ซีเกมส์ เมื่อปี 2013  ที่เมียนมา และเคยมีชื่อติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ ในปี 2017 

รายที่ 3  คือ   คือ   นิรันดร์ มีมาก กองหลัง   ที่ถือ 2 สัญชาติ ไทย-สวีเดน   นิรันดร์ มีมาก   ปัจจุบันอายุ 25 ปี เส้นทางฟุตบอล  เริ่มฝึกฟุตบอลกับ ไอเอฟ บรอมมาปอจคาร์น่า ทีมในประเทศสวีเดน ตั้งแต่เป็นเยาวชน ก่อนที่ปี 2016 จะถูกดันขึ้นสู่ชุดใหญ่ แต่ไม่สามารถแทรกขึ้นมาเป็นตัวจริงของทีมได้    ปี 2017  การท่าเรือ เอฟซี ที่คว้าตัวมาร่วมทีม แต่ทว่ามีโอกาสลงสนามช่วยทีมไปเพียง 1 เกมเท่านั้น  ปลายปี 2017  โปลิศ เทโร เอฟซี คว้าตัวมาร่วมทัพประจำฤดูกาล  2018 ลงสนามให้ทีมไปถึง 44 เกม ทำได้ 1 ประตู

ปี 2019 กองหลังสัญชาติ ไทย-สวีเดน เจ้าของความสูง 188 เซนติเมตร ถูก ชลบุรี เอฟซี คว้าตัวไปร่วมทัพ ตลอด 2 ปีในสีเสื้อฉลามชล มีโอกาสลงสนามช่วยทีมไป 29 เกม  ฤดูกาล 2021/22   “ปราสาทสายฟ้า “จึงดึงตัว   นิรันดร์ มีมาก มาเสริมเกมในแนวรับ โดยจะสวมเสื้อหมายเลข 88 ลงสนาม

                                                          พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี   ภาพจาก  facebook : Man U Saharat 

                                                                                   พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี

                                   

                                                                   ชุติพนธ์ ทองแท้

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.