Football Sponsored

รวยเละ! 5 เอเยนต์ทำเงินต่อดีลมากสุด – สยามกีฬา

Football Sponsored
Football Sponsored

ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้เอเยนต์มีความสำคัญมากในโลกฟุตบอล หลังจากพวกเขาสามารถตัดสินใจเรื่องต่างๆ แทนเหล่านักเตะได้เกือบทุกเรื่อง อย่างเช่นเรื่องการย้ายทีม หรือการเจรจาจเกี่ยวกับการต่อสัญญา จนถ้าจะบอกว่าพวกเขาคือคนที่กำหนดอนาคตให้กับนักฟุตบอลไปเลยมันก็คงไม่เกินเลยมากไปนัก

    แม้ว่าบางคนจะไม่ชอบที่มีคนแบบนี้มาอยู่คั่นกลางระหว่างสโมสรกับนักฟุตบอล แต่อีกด้านหนึ่งอาชีพนี้ก็ได้รับความนิยมสูงพอตัว เพราะหากดำเนินการดีๆ แล้วนั้นมันก็จะทำให้คุณรวยจนใช้ชีวิตแบบสบายๆ ได้เลย ต่อให้จะทำให้สโมสรฟุตบอลหรือแฟนบอลของทีมที่เป็นต้นสังกัดของนักเตะไม่พอใจอย่างมากก็ตาม

    ทั้งนี้ ในปัจจุบันมันมีเอเยนต์นักเตะชื่อดังหลายคน และแต่ละคนก็ทำเงินได้มากมายก่ายกองกันทั้งนั้น แต่ใครล่ะที่ได้เงินกันมากที่สุด ? ซึ่งล่าสุด ออนไลน์ เบ็ทติ้ง ไกด์ เว็บไซต์ด้านการพนันถูกกฎหมายที่ชอบวิเคราะห์เรื่องต่างๆ ด้วยนั้น ก็ได้วิเคราะห์ตัวเลขต่างๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับเอเจนย์ขึ้นมา ลองไปดูกันดีกว่าว่าเอเยนต์ที่ทำเงินเฉลี่ยต่อดีลได้มากที่สุด 5 อันดับแรกมีใครบ้าง

    5. โจนาธาน บาร์เน็ตต์
    เขามีบริษัทด้านเอเยนต์ที่ชื่อว่า ไอซีเอ็ม สเตลลา สปอร์ตส์ ซึ่งมันก็เป็นบริษัทที่ใหญ่โตมาจากจนถึงขั้นที่มีนักเตะอยู่ในความดูแลมากถึง 637 คนทั่วโลก และนั่นมีส่วนทำให้มูลค่าโดยรวมของนักเตะที่อยู่ในสังกัดของ บาร์เน็ตต์ มีมากถึง 1,320 ล้านปอนด์

    อย่างไรก็ตาม หากเทียบีท่ค่าเฉลี่ยจำนวนเงินที่ได้ต่อ 1 ดีลแล้วนั้น บาร์เน็ตต์ ทำไป 153,000 ปอนด์ ซึ่งถึงแม้ว่าจะเยอะหากเทียบกับคนทั่วไป แต่ในกลุ่มเอเยนต์ชั้นนำแล้วนั้นเขาก็ยังแพ้อีกหลายคน โดยนักเตะที่อยู่ในความดูแลของเขามีอย่างเช่น แกเร็ธ เบล และ เมสัน เมาน์ท เป็นต้น ถึงกระนั้น หากดูที่เงินค่านายหน้าโดยรวมแล้วล่ะก็ บาร์เน็ตต์ ก็ได้เงินจากด้านนี้มากถึง 103 ล้านปอนด์ด้วยกัน

    4. โฟลเกอร์ สตรุธ
    หากเทียบกับเอเยนต์ที่โผล่ตามหน้าสื่อบ่อยๆ แล้วนั้น ชื่อของ สตรุธ อาจจะไม่ได้โด่งดังอะไร แต่เชื่อหรือไม่ว่า สปอร์ตส์โททัล บริษัทด้านเอเยนต์ของเขาถือเป็นบริษัทที่ใหญ่และร่ำรวยอย่างมาก แถมยังได้รับความน่าเชื่อถือสูงจนมีแข้งระดับ โทนี่ โครส, ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ และ นิคลาส ซือเล่ อยู่ในกลุ่มลูกค้าของบริษัท

    ด้วยเหตุนี้ จนถึงปัจจุบัน สตรุธ เลยได้เงินเฉลี่ยต่อ 1 ดีลไปถึง 378,000 ปอนด์ โดยรวมๆ แล้วมีนักเตะที่ใช้บริการบริษัทของเขาอยู่ที่ 80 คน ขณะที่มูลค่าโดยรวมของนักเตะทั้งหมดอยู่ที่ 298.80 ล้าปอนด์

    3. จอร์จ เมนเดส
    ทันทีที่เห็นชื่อนี้แล้วนั้นนักเตะที่หลายคนคงจะนึกถึงเป็นคนแรกก็คือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หลังจากที่ เมนเดส เป็นเอเยนต์ให้กับ โรนัลโด้ มาเป็นเวลาหลายปี และทั้งคู่ก็สนิทสนมกันมากๆ จนถึงขั้นที่ โรนัลโด้ แทบจะให้เขาเป็นเพื่อนซี้เลย โดยที่ โรนัลโด้ ถึงขั้นซื้อเกาะให้ เมนเดส เลยด้วยซ้ำ

    ที่จริงนอกจาก โรนัลโด้ แล้วนั้น เมนเดส กับบริษัท เกสติฟูเต้ ของเขาก็ยังมีนักเตะชื่อดังอย่าง ดีโอโก้ โชต้า, แบร์นาร์โด้ ซิลวา และ รูเบน อิดาส อยู่ในความดูแลด้วย ซึ่งเขาก็ทำเงินจากดีลต่างๆ ได้เฉลี่ยแล้ว 505,000 ปอนด์ต่อ 1 ดีล ส่วนค่านายหน้านั้นแม้ว่ายังแพ้ บาร์เน็ตต์ แต่ก็ทำได้ถึง 75 ล้านปอนด์ด้วยกัน

    2. เมอิสซ่า เอ็นดีเย่
    เอ็นดีเย่ ก็เหมือนกับ สตรุธ เขาไม่ใช่ชื่อที่หลายคนจะคุ้นหูเท่าไหร่ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจอะไรหากพิจารณาถึงเรื่องที่ว่าจนถึงตอนนี่มีนักเตะที่อยู่ในความดูแลของเขาเพียงแค่ 31 คนเท่านั้น โดยมันถือเป็นจำนวนที่น้อยมากๆ เมื่อเทียบกับเอเยนต์ชั้นนำรายอื่นๆ

    อย่างไรก็ตาม เอ็นดีเย่ กลับเป็นคนที่ได้เงินจากดีลต่างๆ สูงมาก จนทำให้ค่าเฉลี่ยจำนวนเงินที่ทำได้ต่อ 1 ดีลของเขาอยู่ที่ 530,000 ปอนด์เลยทีเดียว โดยแข้งที่อยู่ในความดูแลของเขามีอย่างเช่น มิชี่ บัตชูอายี่, แบ็งฌาแม็ง เมนดี้ และ วิสซาม เบน เย็ดแดร์ เป็นต้น

    1. มิโน่ ไรโอล่า
    นี่คือหนึ่งในเอเยนต์ที่หลายคนเกลียดขี้หน้ามากที่สุด แม้กระทั่ง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานผู้จัดการทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ยังเคยยอมรับว่า ไรโอล่าเป็นหนึ่งในคนที่เขาไม่คิดที่จะคบค้าสมาคมด้วย แต่สำหรับบรรดาคนที่ใกล้ชิดกับ ไรโอล่า แล้วนั้น เอเยนต์เชื้อสายอิตาเลียน-ดัตช์ ผู้นี้ถือเป็นคนที่พวกเขาเชื่อใจอย่างมาก

    ปัจจุบัน ไรโอล่า เป็นนายหน้าให้กับนักเตะชื่อดังหลายราย อย่างเช่น ปอล ป็อกบา, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช และ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า เป็นต้น ส่งผลให้ตอนนี้เขาได้เงินจากแต่ละดีลเข้ากระเป๋าเฉลี่ยแล้ว 796,000 ปอนด์ต่อ 1 ดีลเลยทีเดียว โดยถึงแม้เขาจะได้ค่านายหน้าโดยรวมเพียง 61 ล้านปอนด์ แต่มันก็ไม่ใช่ตัวเลขที่ทำให้เขาโศกเศร้าอะไรมากนัก

    – เด็กเกร็ดบอล –

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.