ราชประชาฯ ขอบคุณ “โค้ชโอ่ง” ขออวยพรให้โชคดีเส้นทางโค้ช – สยามกีฬา
ภายหลังจากที่สโมสรการท่าเรือ เอฟซี ได้ประกาศแต่งตั้ง “โค้ลโอ่ง” ดุสิต เฉลิมแสน กุนซือมากประสบการณ์ วัย 51 ปี เข้ามาคุมทัพ “สิงห์เจ้าท่า” อย่างเป็นทางการ พร้อมวางโปรแกรมซ้อมทันทีเพื่อเตรียมลุยศึกไทยลีก 2021-22 ที่จะเปิดฉากฟาดแข้งในวันที่ 13 ส.ค.64
ล่าสุด สโมสรราชประชา เอฟซี ทีมในศึกไทยลีก 2 ได้ออกมาแถลงขอขอบคุณ “โค้ชโอ่ง” ดุสิต เฉลิมแสน หัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีม สำหรับความทุ่มเทในการพัฒนาสโมสรตลอดช่วงที่ผ่านมา หลังเข้ามารับหน้าที่ควบคุมการฝึกซ้อมของทัพ “ตราชฎา” เมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา และขออวยพรให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่โค้ชต่อไป หลังจาก “โค้ชโอ่ง” เข้ารับหน้าที่เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่ของการท่าเรือ เอฟซี
สำหรับ “โค้ชโอ่ง” ดุสิต เฉลิมแสน เคยผ่านการคุมทีมมาแล้วหลายสโมสร ก่อนจะเข้ามาเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2019 และพาทัพ “เดอะ แรบบิท” คว้าแชมป์ไทยลีก 2 และเลื่อนชั้นขึ้นสู่ไทยลีก 1 ภายในปีเดียว ก่อนที่ในฤดูกาลต่อมาจะพา บีจี ปทุม ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ไทยลีก 2020-21 ได้สำเร็จ ก่อนจะมาเปิดตัวเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนราชประชา เอฟซี ทีมน้องใหม่ไทยลีก 2 และอยู่ระหว่างการเตรียมทีมสำหรับฤดูกาล 2021-22 ที่กำลังจะเริ่มขึ้น
อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.