Football Sponsored

เจอร์เก้น เกเด รับเกมแพ้บีจีคือฟุตบอลที่เวียตเทลต้องเรียนรู้ – สยามกีฬา

Football Sponsored
Football Sponsored

หลังจากจบการแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2021 รอบแบ่งกลุ่ม ที่สโมสรเวียตเทล เอฟซี จากเวียดนาม พ่าย บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 0-2 เจอร์เก้น เกเด ผู้อำนวยการด้านเทคนิคของทีมแชมป์วีลีก 2020 แสดงความยินดีกับบีจี ปทุม พร้อมรับนี่คือฟุตบอลที่จะต้องเรียนรู้ก้นต่อไป และไม่ขอโทษผู้ตัดสินในเกมนี้

    อดีตผู้อำนวยการเทคนิคทีมชาติเวียดนาม กล่าวว่า “ก่อนอื่น ผมขอแสดงความยินดีกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด สำหรับชัยชนะครั้งนี้”

    “เรามาด้วยความตั้งใจที่จะโจมตีใส่แต่ไม่สามารถทำประตูนำก่อนได้ ผมต้องบอกว่าบีจีมีผู้เล่นที่มีประสบการณ์มากมาย และพวกเขาคุมเกมได้ดี และนั่นเป็นสิ่งสำคัญที่เราไม่สามารถทำได้ในเกมนี้”

    “ในครึ่งหลังเราพยายามคุมเกมมากขึ้น เรามีช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกับการทำประตู แต่เราโดนประตูที่สอง ทุกอย่างก็พังทลาย นี่คือฟุตบอล และเราต้องเรียนรู้สำหรับเกมต่อไป”

    นอกจากนี้ เกเด้ กล่าวอีกว่าเขาไม่ได้ตำหนิผู้ตัดสินสำหรับการตัดสินใจที่ไม่เป็นผลดีกับ เวียตเทลในนัดนี้ “ผมไม่เคยโทษผู้ตัดสิน ทั้งหมดขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่แตกต่างกัน แน่นอนว่าในเวทีนี้เราจะต้องระวังให้มากขึ้นถ้าเราต้องการไปไกลกว่านี้ เรามีโอกาสไม่มากนักที่จะเข้าใกล้การทำประตูและไม่สามารถทำให้เกมดำเนินไปในทางของเราได้ ทีมพยายามหลายวิธี ยิงไกล เตะมุม การประสานงาน จ่ายบอล แต่ล้มเหลวทั้งหมด  พวกเขาเล่นได้ดีและเราจะต้องทำงานหากเราอยากเข้าประตู และจะต้องสร้างโอกาสให้กองหน้าเข้าทำและบุกทะลุกรอบเขตโทษ”

    สำหรับโปรแกรมนัดต่อไปของเวียตเทล เอฟซี จะลงสนามพบกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด อีกครั้งในวันจันทร์ที่ 7 ก.ค.64 เวลา 21.00น.

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.