Football Sponsored

ทางการ “ชลบุรี” เปิดตัว อันโธนิโอ” แนวรับลูกครึ่ง ไทย-สวีเดน – ไทยรัฐ

Football Sponsored
Football Sponsored

“ชลบุรี เอฟซี” ทำการเปิดตัว “อันโธนิโอ แสนใจรักษ์” แนวรับลูกครึ่ง ไทย-สวีเดน มาร่วมทีมอย่างเป็นทางการแล้ว เจ้าตัวกร้าวขอทำผลงานให้ดีที่สุดกับทีม

วันที่ 3 ก.ค. 64 “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี ทีมดังแห่งศึก โตโยต้า ไทยลีก ทำการเปิดตัว อันโธนิโอ แสนใจรักษ์ ปราการหลัง ลูกครึ่ง ไทย-สวีเดน จากสโมสร เยอร์กาเดนส์ ในลีกสูงสุดประเทศสวีเดน เข้ามาร่วมทัพอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ “บิ๊กบอล” ศศิศ สิงห์โตทอง ผู้จัดการทีม สโมสร ชลบุรี เอฟซี เป็นตัวแทนสโมสร ในการชูเสื้อ และเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการ ณ สำนักงาน สโมสร ชลบุรี เอฟซี ภายในสนาม ชลบุรีสเตเดี้ยม เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ที่ผ่านมา หลังจากที่นักเตะ ได้เดินทางมาถึงประเทศไทย และเข้ารับการกักตัวตามมาตรการของรัฐ เป็นระยะเวลา 16 วัน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ล่าสุด อันโธนิโอ แสนใจรักษ์ ได้กล่าวถึงการย้ายมาเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ ในถิ่น ชลบุรี สเตเดี้ยม ว่า “ผมประทับใจ กับ การต้อนรับของ ชลบุรี เอฟซี ทันทีที่เดินทางมาถึงที่ ทั้งการจัดการต่างๆ ของสโมสร, ทีมงานผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ทุกๆ คน, เพื่อนร่วมทีม รวมถึงสนามแข่งขัน ผมรู้สึกตื่นเต้น และดีใจที่ได้ย้ายมาเล่นที่นี่ แน่นอนว่าผมจะพยายามทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด เท่าที่ผมจะสามารถทำได้ พัฒนาตัวเองเพื่อโอกาส ในการลงสนามเป็น 11 คนแรก ให้กับ ชลบุรี เอฟซี รวมถึงความสำเร็จของทีม สวัสดี ชลบุรี ดีใจที่ได้พบกันที่นี่”

สำหรับ อันโธนิโอ แสนใจรักษ์ เป็นลูกครึ่ง ไทย-สวีเดน (พ่อสวีเดน แม่ไทย) เกิดเมื่อวันที่ 16 เมษายน ปี 2002 ปัจุบันอายุ 19 ปี ส่วนสูง 189 เซนติเมตร เล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ค เป็นเด็กเป็นนักเตะฝึก ของสโมสรเยอร์กาเด้น (Djurgardens IF) ยักษ์ใหญ่ลีกสูงสุด ของประเทศสวีเดน รุ่น ยู-19 และถูกผลักดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ ในฤดูกาลที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังเคยผ่านการติดทีมชาติ สวีเดน รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี มาแล้วอีกด้วย

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.