ผจก.”ชลบุรี เอฟซี”เฟิร์ม”สะสม พบประเสริฐ”รอด”โควิด19″ – คมชัดลึก
ศศิศ สิงห์โตทอง ผู้จัดการสโมสรฟุตบอล ชลบุรี เอฟซี ในไทยลีก 1 เปิดเผยว่า ได้รับข้อมูลจาก “สะสม พบประเสริฐ” หัวหน้าผู้ฝึกสอนของสโมสร“ชลบุรี เอฟซี” ว่า ไม่พบการติดเชื้อ โควิด19 โดยอิงผลตรวจลล่าสุดจากโรงพยาบาลกรุงเทพ ที่ไปตรวจมา
ทั้งนี้ สะสม พบประเสริฐ หัวหน้าผู้ฝึกสอนของสโมสร “ชลบุรี เอฟซี” ได้มีประวัติในการพบกับ เจริญพร อ่อนละม้าย ( โก๊ะตี๋ อารามบอย ) ดารา นักแสดง ในการร่วมวิเคราะห์ฟุตบอลยูโร 2020 ในรายการโทรทัศน์ วันศุกร์ที่ 18 มิ.ย. ซึ่ง เจริญพร อ่อนละะม้าย ขณะนี้ติดเชื้อ “โควิด19”หากนับจำนวนวัน จนถึงวันนี้ 1 ก.ค. เป็นจำนวนทั้งหมด 13 วัน และ จะครบ 14 วัน ในวันที่ 2 ก.ค.
การที่ “สะสม พบประเสริฐ” หัวหน้าผู้ฝึกสอนของสโมสร “ชลบุรี เอฟซี” ไม่พบว่าติดเชื้อ “โควิด19” นับเป็นข่าวดีของ างสโมสร เนื่องจากในรอยต่อเดียวกันกับที่สะสม พบประเสริฐ ไปวิเคราะห์รายการทีวี เขาก็ทำหน้าที่ควบคุมทีมลงฝึกซ้อมด้วย อย่างไรก็ตามเพื่อป้องกันโควิด19 ที่ผ่านมาสะสม พบประเสริฐ ได้ไปฉีดวัคซีนป้องกันโควิด19 ครบ 2 เข็ม โดยการดำเนินการของทางสโมสร ดังนั้นผลตรวจที่ออกมาไม่พบเชื้อ จึงเป็นเรื่องที่น่ายินดี เพื่อที่จะเดินหน้าในการเตรียมทีมเข้าสู่การแข่งขันฟุตบอลอาชีพต่อไป
****ขอขอบคุณภาพจาก https://www.facebook.com/chonburi.football.club/
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.