Football Sponsored

น้ายังไหว! บุฟฟ่อน กลับบ้านเก่าซบ ปาร์ม่า สัญญา 2 ปี – SMMSPORT

Football Sponsored
Football Sponsored

จานลุยจิ บุฟฟ่อน นายทวารรุ่นเก๋าเตรียมเก็บกระเป๋ากลับบ้านเก่าที่ ปาร์ม่า ในศึก เซเรีย บี ด้วยสัญญาถึง 2 ปี

จานลุยจิ บุฟฟ่อน ผู้รักษาประตูชาวอิตาเลี่ยนวัย 43 ปี เตรียมหวนคืนสู่ ปาร์ม่า สโมสรเก่าที่เคยปลุกปั้นเขามาอีกครั้ง หลังจากที่เขาออกจากสโมสรไปนานถึง 26 ปี จากการรายงานของ ปีเปิ้ล กาเซตเต้ สื่อในอิตาลีได้รายงานไว้ นอกจากนี้ สื่อเจา้ดังกล่าวยังได้รายงานอีกว่า บุฟฟ่อน การกลับไป ปาร์ม่า อีกครั้งของเจ้าตัวมีจุดประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมในฐานะผู้รักษาประตูมือ 3 ของอิตาลีใน ฟุตบอลโลก 2022

โดย บุฟฟ่อน เจ้าของตำแหน่งสถิติผู้รักษาประตูที่มีจำนวนคลีนชีตสูงสุดตลอดกาลในเวที กัลโช่ เซเรีย อา จะย้ายไปยัง ปาร์ม่า สโมสรในดิวิชั่น 2 ของอิตาลี หรือ เซเรีย บี ด้วยสัญญา 2 ปีถึงแม้อายุเจ้าตัวจะปาเข้าไป 43 กะรัตแล้ว ซึ่งทาง ฟาบริซิโอ โรมาโน่ นักข่าวกีฬาชื่อดังชาวอิตาลี ได้กล่าวในทวิตเตอร์ของเขาเมื่อวันจันทร์ที่ 14 มิถุนายน ที่ผ่านมา

ทางด้าน โรมาโน่ ได้กล่าวผ่านทางทวิตเตอร์ของเขาว่าจานลุยจิ บุฟฟ่อน ได้ยืนยันว่าเขาจะไม่รีไทร์ และเขาจะเล่นฟุตบอลต่อไปในฤดูกาลหน้า เขาได้ย้ายไป ปาร์ม่า ในดิวิชั่น 2 ของอิตาลี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว การกลับมาบ้านเก่าอันแสนอบอุ่นที่เขาได้เริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลเมื่อ 26 ปีที่แล้ว โดยจะเซ็นสัญญายาวจนถึง มิถุนายน 2566″ 

สำหรับ จานลุยจิ บุฟฟ่อน ที่ปัจจุบันวัย 43 ปีเริ่มต้นอาชีพค้าแข้งกับทีมเยาวชน ปาร์ม่า เมื่ออายุ 13 ปีก่อนก้าวขึ้นมาเล่นชุดใหญ่พร้อมยึดมือ 1 ของทีมได้ตั้งแต่อายุ 17 ปีเมื่อฤดูกาล 1995 โดยเขาออกจาก ปาร์ม่า ไป ยูเวนตุส เมื่อปี 2001 ด้วยค่าตัวสถิติโลกในตำแหน่งผู้รักษาประตูด้วยราคา 52 ล้านยูโร (ประมาณ 1.96 พันล้านบาท) แต่อย่างไรก็ตาม บุฟฟ่อน เคยมีประสบการณ์เฝ้าเสาในศึก เซเรีย บี มาแล้วในฤดูกาล 2006-2007 กับ ยูเวนตุส 

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.