Football Sponsored

แชมป์ลีกจีน ระส่ำหนี้ท่วมหัวส่อยุบทีม กระทบถ้วยเอเชียกลุ่มของราชบุรี

Football Sponsored
Football Sponsored

แชมป์ลีกจีน อย่าง เจียงซู ซูหนิง อาจต้องถึงขั้นยุบสโมสรจากการที่มีหนี้กว่า 2 พันล้านบาท และกระทบฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก ซึ่งอาจจะอยู่ร่วมกลุ่มกับราชบุรี

แชมป์ลีกจีน – Sina Physical Education สื่อของประเทศจีนออกมารายงานถึงปัญหาความเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับทีมแชมป์ไชนิสซูเปอร์ลีกฤดูกาลที่ผ่านมา อย่าง เจียงซู ซูหนิง หลังมีโอกาสถูกยุบทีมเนื่องจากปัญหาการแบกรับหนี้สิน 500 ล้านหยวน (ประมาณ 2,300 ล้านบาท)

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด

นอกจากนี้มีแนวโน้มว่าจะเดินหน้าต่อไม่ได้หลังจากนี้ เนื่องจากยังมีปัญหาภายในเรื่องของการเคลียร์ค่าใช้จ่ายให้กับบรรดาซูเปอร์สตาร์นำเข้า รวมไปถึงมีรายงานว่าจะมีการขายกรรมสิทธิ์ของสโมสรออกไป ด้วยมูลค่าของทีมกับภาระหนี้สิน

  • ไอโอซี หนุน นักกีฬาผู้ลี้ภัยให้ทุนเตรียมโอลิมปิก โตเกียว

ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาสโมสรเจียงซู ซูหนิง ทุ่มทุน ว่าจ้างโค้ชและนักเตะดังระดับโลกมากมายอาทิ ฟาบิโอ คาเปลโล, แดน เปเตรสคู แต่เพิ่งบรรลุเป้าหมายปลายทางด้วยการคว้าแชมป์ลีกจีนในปีที่โรคโควิด-19 แพร่ระบาด

หลังความสำเร็จกลับกลายเป็นข่าวร้ายมากมาย โดยเฉพาะภาระหนี้สินที่สโมสรถือครองอยู่ 500 ล้านหยวน หรือประมาณ 2,300 ล้านบาท ทำให้ขาดสภาพคล่องอีกทั้งยังต้องแบกรับภาระมากมายจนมีแนวโน้มว่าจะเดินต่อไม่ได้พร้อมกับโอกาสที่จะยุบทีมหากแก้ไขสถานการณ์ดังกล่าวไม่ได้

ประเด็นที่สำคัญหาก เจียงซู ซูหนิง ยุบทีมในลีกบ้านเกิดอาจจะกระทบไม่มากในเรื่องของโครงสร้างการแข่งขัน แต่ปัญหาที่สำคัญสโมสรได้สิทธิ์ลงเล่นถ้วยเอเชีย รายการ เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 2021 ในรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มจี ร่วมกับ นาโงยา แกรมปัส (ญี่ปุ่น), ยะโฮร์ ดารุล ทาซิม (มาเลเซีย) และทีมที่ชนะเพลย์ออฟ ระหว่าง โปฮัง สตีลเลอร์ (เกาหลีใต้) – ราชบุรี เอฟซี (ไทย)

แม้ว่าจะมีการขยับทีมจากจีนขึ้นมาแทนโควตาของแชมป์ลีกจีน 2020 แต่สโมสรจากจีนทั้งหมดจะถูกขยับจากกลุ่มเดิมที่เคยฝังตัวอยู่ตามกลุ่มต่างๆ ก่อนหน้านี้สโมสร ชานตง ลู่เหนิง ของจีนถูกตัดสิทธิ์ถ้วยเอเชีย เนื่องจากมีปัญหาค้างจ่ายเงินเดือนรวมไปถึงหนี้สิน ผิดกฎทางการเงิน ทำให้สโมสรเซียงไฮ้ เอสไอพีจี ได้สิทธิ์ก้าวเข้ามาแทนที่

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.