Football Sponsored

เตรียมฉายแสง! 5ดาวรุ่งน่าจับตาในศึกยูโร2020 – สยามกีฬา

Football Sponsored
Football Sponsored

ศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือยูโร 2020 ที่เลื่อนมาเตะในช่วงกลางปีนี้กำลังจะเปิดฉากขึ้นในระหว่างวันที่ 11 มิถุนายน-11 กรกฎาคมนี้ โดยที่มี 12 เมืองจาก 12 ประเทศเป็นเจ้าภาพร่วมกัน

    แน่นอนว่าทัวร์นาเมนต์รายการนี้ถือเป็นเวทีที่มีบรรดาดาวรุ่งต่างเคยแจ้งเกิดมาแล้วมากมาย และยิ่งในยุคปัจจุบันที่หลายๆชาติต่างมาให้ความสำคัญกับการใช้ผู้เล่นเจนเนอเรชั่นใหม่ในการขับเคลื่อนทีมเพื่อก้าวขึ้นไปประสบความสำเร็จ 

    วันนี้เรายก 5 แข้งดาวรุ่งที่ถูกยกให้ได้รับการจับตามองมากที่สุดในศึกยูโร 2020 มาฝากกัน 

นูโน่ เมนเดส (โปรตุเกส)
อายุ
: 18 ปี สโมสร : สปอร์ติ้ง ลิสบอน 

    แบ็กซ้ายจอมบุกก้าวขึ้นมาแจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัวกับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ในซีซั่นนี้เป็นกำลังสำคัญช่วยทีมผงาดคว้าแชมป์ลีกในฤดูกาลที่ผ่านมา โดยมีผลงานยิง 1 ประตูจากการลงเล่น 29 นัดในลีก พร้อมกับตกเป็นเป้าหมายของหลายทีมชั้นนำในยุโรปที่จ้องกระชากตัวไปร่วมทีม 

    จากผลงานดังกล่าวทำให้ดาวเตะวัย 18 ปี ถูก เฟอร์นานโด ซานโต๊ส เรียกตัวติดทีมไปลุยศึกยูโรในครั้งนี้ด้วย และคาดว่าจะเป็นแกนหลักให้กับทีมชุดนี้ด้วย ซึ่งหากเจ้าตัวสามารถทำผลงานได้ดีก็อาจทำให้ค่าตัวของเจ้าหนูรายนี้พุ่งกระฉูดขึ้นไปอีกมาก     

อเล็กซานเดอร์ อิซัค (สวีเดน)
อายุ
: 21 ปี สโมสร : เรอัล โซเซียดาด 

    หลังจากที่ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช หัวหอกตัวเก๋าต้องถอนตัวจากทีมชาติสวีเดนชุดทำศึกยูโรจากอาการบาดเจ็บนั้นทำให้ความหวังอันดับหนึ่งในแนวรุกตกมาที่ อิซัค แบบปฏิเสธไม่ได้

    ดาวยิงวัย 21 ปี ทำไปถึง 14 ประตูในศึกลา ลีกา สเปน เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา ช่วยทีมจบอันดับ 6 ของตาราง ซึ่งเป็นผลงานส่วนตัวที่ดีที่สุดของเจ้าตัวในการเล่นอาชีพเลยทีเดียว  

อเลสซานโดร บาสโตนี่ (อิตาลี)
อายุ
: 22 ปี สโมสร : อินเตอร์ มิลาน 

    นับตั้งแต่ที่ปราการหลังวัย 22 ปี ย้ายจาก อตาลันต้า มาเล่นให้ อินเตอร์ มิลาน ในฤดูกาล 2019/20 เจ้าตัวก็พัฒนาฝีเท้าจนกลายเป็นกำลังสำคัญให้ทีม “งูใหญ่” มาตลอดสองปีหลังสุด เป็นกำลังสำคัญช่วยทีมผงาดคว้าแชมป์สคูเด็ตโต้ในซีซั่นที่ผ่านมา โดยลงเล่นไปถึง 33 เกม

    แน่นอนฟอร์มดังกล่าวนั้นทำให้เขาน่าจะเป็น 1 ใน 3 เซ็นเตอร์ที่ โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือทีมชาติอิตาลีเลือกใช้งานเป็นตัวจริงร่วมกับรุ่นพี่อย่าง จอร์โจ้ คิเอลลินี่ และ เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ 

ดานี่ โอลโม่ (สเปน)
อายุ
: 22 ปี สโมสร : แอร์เบ ไลป์ซิก 

    มิดฟิลด์จอมเทคนิคเป้นหนึ่งในดาวรุ่งที่ได้รับการจับตามองนับตั้งแต่อยู่กับ ดินาโม ซาเกร็บ แล้ว ก่อนจะย้ายมาแจ้งเกิได้อย่างเต็มตัวกับ แอร์เบ ไลป์ซิก ในซีซั่นที่่ผ่านมาจากสถิติยิง 5 ประตูจาก 32 เกมในบุนเดสลีกา 

    แน่นอนว่า โอลโม่ ถูกยกให้เป้นหนึ่งในแข้งอนาคตไกลของทัพ “กระทิงดุ” ชุดนี้ และน่าจะเป็นขุนพลเอกในแดนกลางภายใต้การคุมทีมของ หลุยส์ เอ็นริโก้ ในการพาทีมชาติสเปนกลับมาทวงบัลลังก์ได้อีกครั้ง 

จามาล มูเซียล่า (เยอรมัน)
อายุ
: 18 ปี สโมสร : บาเยิร์น มิวนิค 

    มิดฟิลด์ดาวรุ่งพุ่งแรงซึ่งย้ายจาก เชลซี มาอยู่กับ “เสือใต้” เมื่อปี 2019 ก่อนจะพัฒนาฝีเท้าขึ้นมาจนกลายเป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่น่าจับตามองมากที่สุดคนหนึ่ง โดยสามารถทำผลงานโดดเด่นในฤดูกาลที่ผ่านมาด้วยผลงานยิง 7 ประตูจากการลงเล่น 37 เกมทุกรายการ พร้อมกับได้รับสัญญาอาชีพฉบับแรกกับ บาเยิร์น เรียบร้อย

    จากฟอร์มอันยอดเยี่ยมดังกล่าวนั้นทำให้เขาถูก โยอัคคิม เลิฟ เรียกตัวติดทีมชาติเยอรมันลุยศึกยูโรครั้งนี้ด้วย และมีลุ้นสอดแทรกเป็นตัวจริงให้กับทัพ “อินทรีเหล็ก” ชุดนี้ได้เช่นกัน 

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.