Football Sponsored

คล็อปป์ต้องทำ!ลิเวอร์พูลได้ทุนเสริมทัพกว่า 80 ล้านปอนด์หากขาย 8 แข้ง – สยามกีฬา

Football Sponsored
Football Sponsored

ในยุคโควิด-19 ที่ยังคงหลอกหลอนผู้คนและธุรกิจทั่วโลก ในวงการฟุตบอลก็ต้องประสบปัญหาด้านการเงินกับสถานการณ์นี้ ฉะนั้นในการเสริมทัพแต่ละครั้งทุกๆ สโมสรต้องคิดอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะการขายผู้เล่นที่มีอยู่เพื่อนำเงินมาใช้ในการสมทบทุนสร้างทีมขึ้นใหม่

     “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล มีแผนที่จะทำการเสริมทัพในช่วงซัมเมอร์นี้ เพื่อเอาไว้สู้ศึกใหญ่ทั้งในพรีเมียร์ลีก และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก  แต่การจะทำแบบนั้นได้พวกเขาจำเป็นต้องขายผู้เล่นที่ไม่ได้อยู่ในแผนการสร้างทีม โดยว่ากันว่าตอนนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้ขีดฆ่าชื่อนักเตะเหล่านั้นเอาไว้แล้ว

     ก่อนหน้านี้ “เดอะ เร้ดส์” ต้องเสีย จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม ไปแบบฟรีเอเจนต์  ขณะที่ ยาสเซอร์ ลารูซี่ กับ อาเดรียน กำลังมีการเจรจาเรื่องขยายสัญญาฉบับใหม่ ส่วนบรรดาผู้เล่นที่โดนจับแช่แข็งอยู่ในซุ้มม้านั่งสำรอง และพวกดาวรุ่งที่ดูแล้วไม่มีอนาคตกับทีม ได้ถูกนำชื่อขึ้นไปอยู่ในบัญชีเตรียมขายออกของสโมสรเรียบร้อยแล้ว

     สำหรับตอนนี้ คล็อปป์ ได้หมายหัวผู้เล่น 8 คนที่จะโดนขายทิ้งแน่นอนในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะรอบแรก โดยหากสามารถขายออกไปได้หมด ลิเวอร์พูล จะได้เงินมากกว่า 80 ล้านปอนด์ (ราว 3,200 ล้านบาท) เพื่อใช้ในการเสริมทัพ

 
มาร์โก กรูยิช – ค่า 15 ล้านปอนด์ (ราว 600 ล้านบาท)

     กรูยิช ถูกส่งไปเล่นแบบยืมตัวเป็นส่วนใหญ่ ในฤดูกาลนี้ลงสนามให้ เอฟซี ปอร์โต้ พร้อมช่วยทะลุเข้าไปเล่นในรอบก่อนรองชนะเลิศ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และจบอันดับ 2 ในศึกพรีเมร่า ลีกา โปรตุเกส ในช่วงต้นซีซั่น 2020/2021 นักเตะยังอยู่กับ “หงส์แดง” และลงสนาม 2 เกมในศึกคาราบาว คัพ โดยเขาคือผู้เล่นคนแรกที่ คล็อปป์ เซ็นสัญญาในเดือนมกราคม 2016 แต่คาดว่าเขาคงไม่มีอนาคตกับทีมอีกต่อไปแล้ว 

 
เซอร์ดาน ชากีรี่ – ค่าตัว 15 ล้านปอนด์  (ราว 600 ล้านบาท)

     ชากีรี่ เกือบที่จะแยกทางกับ ลิเวอร์พูล เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ก่อนที่นักเตะจะเปลี่ยนใจ และเลือกที่จะสู้เพื่อแย่งตำแหน่งตัวจริงกับสโมสรต่อไป ในช่วงต้นฤดูกาลนี้ ดาวเตะชาวสวิส มีโอกาสได้ลงสนามหลายเกม แต่กระนั้นในช่วง 11 เกมสุดท้ายในลีกเจ้าตัวได้ลงสนามรวมกันแค่ 32 นาทีเท่านั้น อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า ชากีรี่ ได้รับข้อเสนอจากหลายๆ สโมสร และน่าจะโน้มน้าวเขาออกไปหาความท้าทายใหม่

 
ดิว็อค โอริกี้  – ค่าตัว 15 ล้านปอนด์  (ราว 600 ล้านบาท)

     ต้องบอกเลยว่า โอริกี้ กลายเป็นส่วนเกินของทีมอย่างแท้จริง เพราะเขาแทบไม่มีบทบาทในการช่วยสโมสรในซีซั่นนี้มากนัก และนั่นส่งผลต่อการหลุดทีมชาติเบลเยียม ทำศึกยูโร 2020 นักเตะได้ลงสนามในเกมลีกแค่ 9 แมตช์เท่านั้นและยิงได้แค่ประตูเดียวในเกมที่ทุบ ลินคอล์น ซิตี้ 7-2 ศึกคาราบาว คัพ แน่นอนว่าตอนนี้เจ้าตัวกำลังมองหาโอกาสใหม่ในการย้ายไปค้าแข้ง และว่ากันว่ามีหลายสโมสรในยุโรปสนใจใช้บริการกองหน้ารายนี้ซะด้วย

 
แฮร์รี่ วิลสัน – ค่าตัว 12 ล้านปอนด์ (ราว 480 ล้านบาท)

     ลิเวอร์พูล เคยตั้งค่าหัว สตาร์ทีมชาติเวลส์ เอาไว้ประมาณ 20 ล้านปอนด์ (ราว 800 ล้านบาท) ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อปีที่ผ่านมา จากนั้น “หงส์แดง” จำเป็นต้องลดค่าตัวของนักเตะลงมาเหลือ 15 ล้านปอนด์ และตอนนี้ดูเหมือนสโมสรอาจต้องจำใจรับข้อเสนอที่ต่ำกว่านี้ด้วยซ้ำ โดย ดาวเตะวัย 24 ปีลงเล่นให้ ลิเวอร์พูล แค่ในเกม คาราบาว คัพ ในฤดูกาลนี้ แต่ใช้เวลาในการเล่นยืมตัวกับ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ในศึกเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ซึ่งเขาทำผลงานได้น่าประทับใจพอสมควร 

ทาคูมิ มินามิโนะ – ค่าตัว 10 ล้านปอนด์ (ราว 40 ล้านบาท)

     ต้องถือว่าน่าผิดหวังเหลือเกินสำหรับผลงานของ มินามิโนะ เพราะนับตั้งแต่ที่เขาย้ายจาก เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก มาเล่นในถิ่นแอนฟิลด์ เมื่อ 18 เดือนก่อนด้วยค่าตัวถูกแสนถูกประมาณ 7.25 ล้านปอนด์ (ราว 290 ล้านบาท) นักเตะไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งภายใต้สีเสื้อ “หงส์แดง” ได้เลย ส่งผลให้ต้องถูกส่งไปเล่นแบบยืมตัวกับ เซาธ์แฮมป์ตัน ในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา และดูเหมือน “นักบุญ” อาจจะตัดสินใจซื้อขาด ดาวเตะชาวญี่ปุ่น หากค่าตัวไม่แพงเกินไป

 
ไตโว่ อโวนิยี่ – ค่าตัว 8 ล้านปอนด์ (ราว 320 ล้านบาท)

     ในช่วงแรกนักเตะมีปัญหาเรื่องเวิร์กเพอร์มิต หรือใบอนุญาตทำงานในอังกฤษ และสุดท้ายก็สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ แต่กระนั้น อโวนิยี่ ก็ไม่เคยได้รับโอกาสลงล่นให้กับ ลิเวอร์พูล เลยทั้งๆ ที่เซ็นสัญญามาตั้งแต่เมื่อ 6 ปีก่อน ดาวเตะวัย 23 ปี ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเล่นแบบยืมตัว เมื่อเร็วๆ นี้ก็เพิ่งไปเคาะสนิทกับ อูนิโอน เบอร์ลิน แต่ที่มีข่าวเล็ดลอดออกมาก็คือ ฟูแล่ม กับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน สนใจอยากได้นักเตะไปร่วมทัพ 

 
ลอริส คาริอุส – ค่าตัว 3 ล้านปอนด์ (ราว 120 ล้านบาท)

     สำหรับชายคนนี้บอกเลยว่าไม่มีอนาคกับทีมมานานแล้ว โดยส่วนใหญ่นักเตะถูกส่งไปเล่นแบบยืมตัวมาตลอดนับตั้งสร้างชื่อเสีย(ง) นัดชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อปี 2018 ล่าสุดย้ายไปเฝ้าเสาชั่วคราวกับ อูนิโอน เบอร์ลิง ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ตอนนี้ถูกส่งตัวกลับมาอยู่ในแอนฟิลด์ พร้อมกับสัญญาที่เหลืออยู่ในปีสุดท้าย แน่นอนว่า คาริอุส อยากย้ายทีมใจจะขาดอยู่แล้ว ถ้ามีใครกล้าควักเงินดึงเขาไปร่วมทัพ จะขอบพระคุณอย่างสูง (นักเตะไม่ได้กล่าว แต่คาดว่าคงคิดในใจ) 

เบน วู้ดเบิร์น – ค่าตัว 2 ล้านปอนด์ (ราว 80 ล้านบาท) 

    หนึ่งในดาวรุ่งที่ต้องพบกับความผิดหวังกับลิเวอร์พูล โดยเขามีโอกาสได้ก้าวขึ้นมาเล่นทีมชุดใหญ่ในวัยเพียง 17 ปี และกลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดของสโมสรที่ทำประตูได้เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2016 หลังกระทุ้งประตูใส่ ลีดส์ ยูไนเต็ด ในเกม อีเอฟแอล คัพ แต่ด้วยปัญหาบาดเจ็บซ้ำซากทำให้โอกาสในการพัฒนาฝีเท้าลดน้อยลง และยังโดนส่งไปเล่นแบบยืมตัวกับ แบล็คพูล แถมในเร็วๆ นี้สัญญาของนักเตะจะเข้าสู่ปีสุดท้ายซะด้วย 
 

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.