“คาร์ราเกอร์” ส่งคำเตือนถึง “คลอปป์” หลังนำ “ลิเวอร์พูล” แซงโค้งจบที่ 3 – ไทยรัฐ
“เจมี คาร์ราเกอร์” กูรูลูกหนังชื่อดัง ออกมาส่งคำเตือนถึง “เยอร์เกน คลอปป์” เทรนเนอร์เลือดเบียร์หลังนำทีมมาแรงแซงทางโค้งควบเข้าเส้นชัยในอันดับ 3 ของลีก
วันที่ 25 พ.ค. 64 เจมี คาร์ราเกอร์ กูรูลูกหนังชื่อดัง ออกมาส่งคำเตือนถึง เยอร์เกน คลอปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมันของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ทีมดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ภายหลังจากที่ตัวเขานำสโมสรต้นสังกัดเข้าป้ายอันดับ 3 ในลีกได้อย่างไม่น่าเชื่อ จากการรายงานของ สกาย สปอร์ตส์ (Sky Sports) สื่อชื่อดัง
เป็นที่เข้าใจกันว่า เยอร์เกน คลอปป์ นำยอดทีมแห่งถิ่น แอนฟิลด์ ผงาดคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาครองเป็นสมัยแรกได้ในฤดูกาล 2019-20 และถือเป็นแชมป์ลีกสูงสุดครั้งแรกในรอบได้ 30 ปี แต่ทว่าในฤดูกาลนี้ผลงานของพวกเขาตกลงอย่างน่าใจหายโดยมีอยู่ช่วงกลางซีซั่นที่พวกเขาแพ้คาบ้าน 6 นัดติดต่อกัน แต่สุดท้ายก็เร่งเครื่องจบในอันดับที่ 3 ได้อย่างเหลือเชื่อ
ล่าสุด เจมี คาร์ราเกอร์ ออกมากล่าวว่า “สำหรับผมมันเป็นความสำเร็จที่ถือว่ายิ่งใหญ่จริงๆ (ลิเวอร์พูล จบอันดับ 3 ในลีก) ผมรู้มาว่าทุกคนที่เกี่ยวข้องกับสโมสรแห่งนี้ไม่ว่าจะเป็น นักเตะ, ทีมงาน สตาฟฟ์โค้ช หรือแฟนบอลต่างต้องการให้ฤดูกาลนี้ผ่านพ้นไปสักที การที่ทีมได้ไปเล่นในรายการ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ถือเป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากมันมีในเรื่องของรายได้ที่สูงเข้ามา แต่ผมคิดว่าเขา (เยอร์เกน คลอปป์) จะต้องการเสริมทัพ ทีมต้องมีการเปลี่ยนแปลงในบางตำแหน่งโดยเฉพาะคนที่จะมาแทน จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม ที่จะย้ายออกไป”
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.