Football Sponsored

เวส มอร์แกน – คริสเตียน ฟุคส์ อำลาเลสเตอร์ ซิตี้ – คมชัดลึก

Football Sponsored
Football Sponsored

เวส  มอร์แกน    กองหลังทีมชาติจาไมก้า  และ เลสเตอร์ซิตี้ ซึ่งเข้ามาร่วมงานกับสโมสร เลสเตอร์ซิตี้ ตั้งแต่ปี 2011   จะสิ้นสุดภารกิจในการค้าแข้งให้กับเลสเตอร์ ซิตี้  เมื่อจบฤดูกาล 2020 – 2021  ในสุดสัปดาห์นี้    โดยปราการหลังวัย 37 ปี ตัดสินใจที่จะยุติอาชีพการค้าแข้ง ในขณะที่ คริสเตียน ฟุคส์    ยังคงพร้อมที่จะแสวงหาความท้าทายกับต้นสังกัดใหม่

เวส มอร์แกน ถูก ไนเจล เพียร์สัน  ผู้จัดการทีมเลสเตอร์  ดึงตัวมาจาก น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เมื่อปี 2012 และอยู่ในถิ่นคิงเพาเวอร์ นาน 10  ปี มีส่วนร่วมกับทีมในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2015 -2016  จนมาถึงแชมป์ เอฟเอคัพ  ฤดูกาล 2020-2021

นอกจาก เวส มอร์แกน  ที่ลำอาจิ้งจอกสยามแล้ว    คริสเตียน ฟุคส์   ก็อำลาเลสเตอร์ ซิตี้ เช่นกัน  ฟุคส์  เป็นผู้เล่นสำคัญในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2015/16   และ เอฟเอคัพ2020 -2021  ทั้งนี้  ฟุคส์ ลงเล่นไป 152 นัดให้กับ เลสเตอร์ ซิตี้ ในทุกรายการ  ตลอด 6 ปี แบ็กซ้ายวัย 35 ปี  ย้ายจาก ชาลเก้ 04  ในเยอรมนี  มาร่วมทีมเลสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2015  ตลอด 125 นัด ยิงไป  3ประตู  และมีบทบาทเป็น  อดีตกัปตันทีมชาติออสเตรีย  

อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ กล่าวว่า  “เวส  มอร์แกน เป็นหนึ่งในนักเตะผู้ยิ่งใหญ่ของเลสเตอร์ ซิตี้ และเป็นผู้นำทีมผ่านเข้าสู่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของสโมสร และช่วยสร้างมาตรฐานที่ดีในการขับเคลื่อนสโมสรไปข้างหน้า เขาเป็นพี่ใหญ่ของทุกคนที่เขาร่วมงานด้วย ” เป็นตัวแทนที่แข็งแกร่งของทีมและเป็นที่ปรึกษาที่ดีสำหรับผู้จัดการทีม และผู้บริหารระดับสูงของสโมสร

เขามีส่วนร่วมกับการทำงานของสโมสรมากมาย  เขาแสดงให้เห็นตลอดอาชีพของเขาที่เลสเตอร์ ซิตี้ ผมรู้สึกตื่นเต้น ที่ได้เห็นว่าเราสามารถทำงานร่วมกับเขา หลังสิ้นสุดเส้นทางของนักฟุตบอลอาชีพ และสโมสรจะได้รับประโยชน์จากประสบการณ์ ความรู้ ในเกมฟุตบอลจากเขาต่อไป” ประธานสโมสรกล่าว 

เวส มอร์แกน 

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.