“บิ๊กอ๊อด”ร่วมยินดีครอบครัว”ศรีวัฒนประภา”นำเลสเตอร์ซิตี้คว้าแชมป์เอฟเอคัพ – คมชัดลึก
สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย https://www.facebook.com/FootballAssociationOfThailand ได้เผยแพร่ข้อความแสดงความยินดีไปยังสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้ และครอบครัว “ศรีวัฒนประภา” โดย พล.ต.อ.ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย หลังจากสโมสรฟุตบอลแห่งนี้ ที่มีคนไทยเป็นเจ้าของ คว้าแชมป์ฟุตบอลเอฟเอคัพ อังกฤษ จากการเอาชนะ เชลซี 1-0 โดยข้อความ จาก พล.ต.อ.ดร.สมยศ ระบุว่า
“ขอแสดงความยินดีกับ ครอบครัวศรีวัฒนประภา ในโอกาสที่พาสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์ได้สำเร็จอีกครั้ง หลังจากเข้ามาบริหารทีม เมื่อปี 2010 และพาทีมคว้าแชมป์ลีก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ได้ในปี 2014 เลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีก อังกฤษ จากนั้นในปี 2016 สามารถพาทีมสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้เป็นครั้งแรกของสโมสร”
“ครอบครัวศรีวัฒนประภา และสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ถือว่ามีความผูกพัน และให้การสนับสนุนวงการฟุตบอลไทยมาโดยตลอด โดยเฉพาะโครงการ Fox Hunt เพื่อสานฝันเด็กไทยให้ก้าวสู่เส้นทางนักฟุตบอลอาชีพ, โครงการ 100 สนามฟุตบอล สร้างพลังเยาวชนไทย และโครงการแจกฟุตบอล ล้านลูก ล้านพลัง สร้างฝันเด็กไทย ของ King Power Thai Power อีกทั้งให้การสนับสนุนสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ในโครงการต่างๆ รวมไปถึงนักกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทย ทั้งชาย และหญิง”
“ผมเองในฐานะ นายกสมาคมฯ ขออวยพรให้ ครอบครัวศรีวัฒนประภา และสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ประสบความสำเร็จบนเส้นทางลูกหนังสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยต่อไป”
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.