Football Sponsored

สู้ต่อไป! “อาร์เตต้า” ลั่นอาร์เซน่อลยังหวังพื้นที่บอลยุโรป – สยามกีฬา

Football Sponsored
Football Sponsored

มิเกล อาร์เตต้า กุนซือ อาร์เซน่อล ยัน “ไอ้ปืนใหญ่” ยังคงหวังติดพื้นที่ลุยบอลถ้วยยุโรป หลังบุกสอย เชลซี 1-0 พร้อมระบุเป็นชัยชนะที่มีความหมายอย่างมากสำหรับแฟนบอล หลังรอคอยมานานร่วมทศวรรษ

           มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล เผยว่า ทีมตนยังคงหวังที่จะได้โควตาลุยถ้วย ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ฤดูกาลหน้า หลังจากที่ทัพ “ไอ้ปืนใหญ่” บุกไปเอาชนะ เชลซี 1-0 ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดดาร์บี้แมตช์แห่งกรุงลอนดอน เมื่อวันพุธที่ 12 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

           เกมนี้ อาร์เซน่อล ได้ประตูชัยตั้งแต่นาทีที่ 16 จากการยิงของ เอมิล สมิธ โรว์ มิดฟิลด์ดาวรุ่งคนเก่ง โดยชัยชนะนัดนี้ทำให้พวกเขาขึ้นมาอยู่ที่แปด มี 55 แต้ม จากการลงแข่ง 36 นัด ไล่หลัง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ทีมอันดับห้า ซึ่งได้โควตาลุยถ้วย ยูฟ่า ยูโรปา ลีก เหลือ 3 แต้ม ทว่า “ขุนค้อน” ลงเตะน้อยกว่า 1 นัด 

           “ในแง่ของคณิตศาสตร์ มันยังเป็นไปได้ ดังนั้นเราก็คงต้องพูดแบบนั้น เราจำเป็นต้องทำให้ดีที่สุดกับเกมที่เหลือ” กุนซือชาวสแปนิชวัย 39 ปี กล่าว 

           นอกจากนี้ อาร์เซน่อล ยังสามารถลบอาถรรพ์ บุกไปเอาชนะ เชลซี ในเกมลีกที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2011 ซึ่ง อาร์เตต้า ยอมรับว่า เป็นชัยชนะที่มีความหมายอย่างมาก ทั้งสำหรับสโมสรและสาวก “เดอะ กันเนอร์ส”

           “ใช่ มันนานร่วมๆ 10 ปีแล้ว ที่เราบุกมาคว้าชัยชนะที่นี่ ซึ่งแน่นอนว่า มันเป็นผลการแข่งขันที่สำคัญมากๆ สำหรับสโมสรของเรา, ทีมเรา และแฟนๆ ของเรา” นายใหญ่ อาร์เซน่อล ระบุ 

           สำหรับ 2 นัดที่เหลือของ อาร์เซน่อล ในฤดูกาลนี้ คือเกมบุกไปเยือน คริสตัล พาเลซ วันพุธที่ 19 พฤษภาคม และเปิดบ้านรับมือ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ในเกมปิดซีซั่น วันอาทิตย์ที่ 23 พฤษภาคม

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.