“ชาช่า” ฉาว ถูกตรวจพบใช้สารกระตุ้นเกมชปล. โดนแบนยาว4ปี
ฉาวโฉ่วงการลูกหนังเอเชียสะเทือนถึงวงการลูกหนังไทย เมื่อ ชาช่า โคเอลโญ่ กองหน้าชาวบราซิล อดีตแข้ง “กว่างโซ้งมหาภัย” สิงห์ เชียงรายฯ ถูกตรวจพบใช้สารกระตุ้นเกมเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก โดนสมาพันธ์ลูกหนังแห่งเอเชีย หรือเอเอฟซี ลงโทษแบน 4 ปี
ชาช่า ถูกพบว่าใช้สารกระตุ้นระหว่างศึก เอซีแอล 2020 รอบแบ่งกลุ่มในเกม สิงห์ เชียงราย พบกับ เมลเบิร์น วิคตอรี เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2020 ซึ่งบทลงโทษจะถูกสั่งห้ามยุ่งเกี่ยวหรือมีส่วนร่วมในกิจกรรมใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับวงการฟุตบอลทุกระดับเป็นเวลานานถึง 4 ปี ไม่ว่าจะเป็น เกมระดับชาติ, เกมภายในประเทศ, เกมทีมชาติ, อุ่นเครื่อง และเกมทางการทั้งหมด เนื่องจากความผิดละเมิดมาตรา 6 ของกฎการต่อต้านการใช้สารต้องห้ามของ เอเอฟซี 2019
สำหรับ อเวลิโน่ โคเอลโญ่ แจ็คสัน หรือที่แฟนบอลคุ้นเคยในชื่อ ชาช่า ผ่านการค้าแข้งกับสโมสรดังในไทยลีก มาแล้วหลายสโมสรอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, เอสซีจี เมืองทองฯ และ สิงห์ เชียงรายฯ ซึ่งเขาหมดสัญญาไปกับทีมตั้งแต่ช่วงจบเลกแรก2020
อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.