เสริมได้เต็มอัตราศึก! “คสช” ยันบอร์ด “กระบี่” ไฟเขียวให้เสริมทัพได้เต็มที่ | Ballthai | LINE TODAY
“สมชาย มากมูล” กุนซือของ “กระบี่ เอฟซี” ยันได้คุยกับบอร์ด และได้รับไฟเขียวให้ทีมพร้อมเสริมทัพเต็มพิกัด เพื่อหนีโซนแดงในศึกไทยลีก 2 เลกที่ 2
ความเคลื่อนไหวในช่วงพักปิดเลก กับการแข่งขันในศึกไทยลีก 2 ฤดูกาล 2022-23 ล่าสุด “คสช” สมชาย มากมูล กุนซือของ กระบี่ เอฟซี ก็ได้ออกมาเผยถึงแผนการเสริมทัพของทีม ก่อนเริ่มการแข่งขันในเลกที่ 2 เพื่อพาทีมทำตามเป้าหมายในการอยู่รอดบนเวทีลีกรอง
โดย “คสช” ได้เผยถึงเรื่องการเสริมทัพของทีมว่า…
“ทางสโมสรไม่ได้นิ่งนอนใจกับสถานการณ์ของทีมในตารางคะแนน ที่จบเลกแรกด้วยพื้นที่โซนตกชั้น โดยทางทีมผู้บริหารได้มีการประชุมร่วมกัน พร้อมไฟเขียวให้ทางสโมสรเสริมทัพเต็มอัตราศึกโควตา 12 ผู้เล่น จัดหนัก ในตลาดซื้อขายรอบที่ 2 ทันที”
- อยากป้องกันแชมป์! “ศศลักษณ์” เผยทุกคนกระหาย หวังพิสูจน์ตัวเอง
- “ภาสกร” เตรียมลา “เขี้ยวสมุทร” บวชทดแทนคุณในวันที่ 18 ธันวานี้
- ลุยบอลโลกมาแล้ว! ราชันมังกร ซิว นันดา จอ แข้งเมียนมา ร่วมทัพเลก 2
สำหรับผลงานของทัพ “อินทรีอันดามัน” กระบี่ เอฟซี หลังจากผ่านการแข่งขันไป 17 นัด ในเลกแรก ของศึกไทยลีก 2 ทีมอยู่ในอันดับที่ 16 ของตาราง ด้วยการเก็บไป 14 คะแนน แบ่งเป็นชนะ 3 นัด เสมอ 5 นัด และแพ้ 9 นัด
เครดิตภาพ : Krabi Football Club – สโมสรฟุตบอลกระบี่
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.