Football Sponsored

อย่าหาว่าผมสอน “บังยี” แนะ ส.ฟุตบอลไทย บริหารให้โปร่งใส เพื่อครองใจนักเตะ-สโมสร

Football Sponsored
Football Sponsored

วันที่ 18 พ.ย. 65 “บังยี” วรวีร์ มะกูดี อดีตประมุขลูกหนังไทย ออกมาพูดถึงการทำงานของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ชุดปัจจุบัน ยอมรับว่าแปลกใจทำไมฟุตบอลเราถึงตกต่ำได้ขนาดนี้ เพราะในอดีตไม่ว่าชุดไหน เราก็กวาดแชมป์มาหมด พร้อมแนะนำสมาคมฯ ควรบริหารนักเตะและสโมสรแบบหุ้นส่วน ไม่ใช่แบบเจ้านายลูกจ้าง รายได้สิทธิประโยชน์ที่ได้มาก็ต้องเปิดเผยให้โปร่งใสที่สุด

“บังยี” วรวีร์ มะกูดี เปิดเผยว่า “ผมไม่อยากวิพากษ์วิจารณ์ ในเรื่องการบริหาร ในเมื่อเขาอาสาเข้ามา ก็ต้องมีความรู้ความสามารถที่จะแก้ไขปัญหาต่างๆ ความจริงในเรื่องการแข่งขันในภูมิภาคอาเซียน ตอนที่ผมบริหารอยู่ เราก็เป็นเจ้าอาเซียนเกือบจะตลอด จำได้ว่าในสมัยนั้นไม่ว่าชุดไหน เราก็กวาดแชมป์มาหมด สหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน จะมีการมอบรางวัลทุกปี เราก็จะขึ้นไปรับรางวัลทุกรางวัลเลย พอเป็นตอนนี้ผมก็เอ๊ะ มันเกินอะไรขึ้น ทำไมฟุตบอลเราถึงตกต่ำ เล่นกับเวียดนามกว่าจะชนะได้ก็ลำบาก หรือบางครั้งในระดับเยาวชน ก็สู้ชาติอื่นในอาเซียนไม่ได้ อันนี้สำคัญมาก เป็นอะไรที่น่าตกใจมาก ทำไมเราถึงตกต่ำขนาดนั้น”

“ผมก็อยากแนะนำว่า การพัฒนาเยาวชนหรือการบริหารงานของสมาคม ต้องบริหารแบบหุ้นส่วน ไม่ใช่แบบเจ้านายลูกจ้าง รายได้สิทธิประโยชน์ที่ได้มาก็ต้องเปิดเผยให้โปร่งใส สมัยที่ผมเป็นผู้บริหาร เราให้เงินสนับสนุนเป็นแรงจูงใจ แรงกระตุ้นให้ทีมชาติมากมาย ถ้าประสบความสำเร็จแต่ละทัวร์นาเมนต์เด็กก็จะได้ตังค์ไปให้พ่อแม่มากมาย อันนี้สำคัญ มันคือเทคนิคบริหารให้ครองใจคนที่จะมาร่วมงานกับเรา เช่นเดียวกับสโมสรต่างๆ”

“ตอนนี้สโมสรร้องเรียนกันมาก ไม่ได้รับการดูแล เงินสนับสนุนถูกตัดไปเรื่อยๆ จริงๆ แล้วสโมสรสมาชิกเป็นเจ้าของสมาคม คนที่ได้ขึ้นไปบริหารสมาคมก็มาจากการเลือกของสโมสรทั้งนั้น เพราะฉะนั้นเรามีรายได้เท่าไหร่ ต้องเปิดให้สโมสรสมาชิกรับทราบ ซึ่งตอนที่พี่ดำรงตำแหน่งเราหาสิทธิประโยชน์ให้สโมสรมากมาย จำได้ว่าสิทธิประโยชน์เรื่องฟุตบอลลีก เทอมสุดท้ายที่เซ็นสัญญากับทรูวิชั่นส์ เงินมูลค่า 4,200 ล้าน ที่เราทิ้งไว้ให้ผู้บริหารยุคปัจจุบัน สมาคมเมื่อได้เงินมาแล้วก็ควรแจกจ่ายไปยังสโมสร ให้เขานำไปพัฒนาทีมต่อไป”

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.