Football Sponsored

ทีมที่ 5 ! ขอนแก่น ยูไนเต็ด แสดงเจตนารมณ์ไม่เห็นด้วยขยับโปรแกรมฟุตบอลไทยลีก

Football Sponsored
Football Sponsored

ทีมที่ 5 ! ขอนแก่น ยูไนเต็ด แสดงเจตนารมณ์ไม่เห็นด้วยขยับโปรแกรมฟุตบอลไทยลีก และยกเลิกฟีฟ่าเดย์ มี.ค.66 ชี้การเร่งลีกให้จบเร็วขึ้นเป็นความเสี่ยงต่อภาพรวมของทุกฝ่าย ทั้งกลุ่มลุ้นแชมป์-กลุ่มหนีตาย นักฟุตบอลเสี่ยงบาดเจ็บ แถมหากมีนักเตะอาเซียนถูกเรียกไปติดทีมชาติช่วงฟีฟ่าเดย์ ก็จะเกิดผลกระทบต่อสโมสรอีก วอนผู้เกี่ยวข้องพิจารณาทบทวนให้ถูกต้องตามแนวทางสากลด้วย

ตามที่สมาคมฯ และฝ่ายจัดการแข่งขัน เตรียมออกประกาศแก้ไขปฏิทินการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก 1 ฤดูกาล 2022-23 ในช่วงเลกสอง ให้จบเร็วขึ้นกว่าแผนเดิมที่เคยวางไว้ และจะมีการยกเลิก ฟีฟ่าเดย์ เดือน มี.ค.66 ของทีมชาติไทย ชุดใหญ่ เพื่อเร่งลีกให้จบเร็ว โดยการขยับโปรแกรมไทยลีกมาจัดแข่งในช่วงฟีฟ่าเดย์ และเพิ่มการแข่งขันเกมกลางสัปดาห์ลงไปในช่วงเดือน มี.ค.66 โดยก่อนหน้านี้มีหลายสโมสรแสดงความไม่เห็นด้วยถึง 4 ไล่ตั้งแต่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, ราชบุรี เอฟซี, พีที ประจวบ เอฟซี, บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

ล่าสุด สโมสรขอนแก่น ยูไนเต็ด ยังยืนยันในการสนับสนุนทีมชาติไทย และพร้อมช่วยในการพัฒนาวงการฟุตบอลไทย แต่ขอแสดงความไม่เห็นด้วยในเรื่องดังกล่าว  การเร่งลีกให้จบเร็วขึ้น เลื่อนลีก หยุดลีก โดยการปรับโปรแกรมให้เตะถี่ขึ้น มีเกมกลางสัปดาห์ในช่วงท้ายฤดูกาล ถือเป็นความเสี่ยงต่อภาพรวมของทุกฝ่าย ทั้งสโมสรในกลุ่มต่างๆ ทั้งลุ้นถ้วยรางวัลหรือสโมสรกลุ่มหนีตาย นักฟุตบอลก็เสี่ยงในการบาดเจ็บ

นอกจากนี้ถ้าเกิดการบาดเจ็บจากการจัดแข่งขันโปรแกรมถี่ก็จะกระทบไม่สามารถลงสนามได้ในช่วงเวลาที่เตะถี่ดังกล่าว ซึ่งถ้าเกิดขึ้นกับสโมสรที่มีขนาดทีมไม่ใหญ่ก็สามารถส่งผลกระทบได้มาก หรือถ้านักฟุตบอลในภูมิภาคอาเซียนของแต่ละสโมสรโดนเรียกตัวไปแข่งขันในช่วงฟีฟ่าเดย์ดังกล่าว ในช่วงที่ฟุตบอลไทยลีกยังคงต้องแข่งขันตามโปรแกรมที่ปรับใหม่อยู่ ก็จะเป็นผลกระทบกับสโมสรนั้นๆ ไปด้วย เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบเกิดขึ้นจากการแข่งขันช่วงฟีฟ่าเดย์ 

ทั้งนี้ ขอนแก่น ยูไนเต็ด หวังว่าผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจ ในการจัดการแข่งขันฟุตบอลอาชีพภายในประเทศ จะพิจารณาทบทวนเรื่องดังกล่าว เพื่อแสดงถึงความถูกต้องตามแนวทางสากลต่อไป

ที่มาของภาพ : SIAMSPORT

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.