Football Sponsored

“กลุ่มทุนดูไบ” สนซื้อลิเวอร์พูล 4,300 ล้านปอนด์

Football Sponsored
Football Sponsored
“กลุ่มทุนดูไบ” สนซื้อลิเวอร์พูล 4,300 ล้านปอนด์

โดย PPTV Online

เผยแพร่




กลุ่มทุนจากสหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ ถือเป็นอีกรายที่สนใจเข้าเทคโอเวอร์สโมสร ลิเวอร์พูล โดยพร้อมที่จะยื่นข้อเสนอมูลค่า 4,300 ล้านปอนด์ให้ เอฟเอสจี พิจารณา

โดย Arabian Business ระบุว่า ตั้งแต่ที่ เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป หรือ เอฟเอสจี เจ้าของสโมสร ลิเวอร์พูล แจ้งว่าต้องการที่ขายทีม ทำให้บรรดากลุ่มทัยในดูไบ ต่างให้ความสนใจที่จะเป็นเจ้าของ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ กลุ่มทุนดูไบ อินเตอร์ เนชั่นแนล แคปิตอล หรือ ดีไอซี ที่ต้องการบริหาร หงส์แดง มานานแล้ว และพร้อมที่จะยื่นข้อเสนอมูลค่า 4,300 ล้านปอนด์ ให้ เอฟเอสจี พิจารณา

“คล็อปป์” มั่นใจข่าว “ลิเวอร์พูล” ขายทีมไม่กระทบนักเตะ

สื่อแฉ FSG ตัดใจขาย “ลิเวอร์พูล” เพราะ “ซูเปอร์ลีก” ล่ม

กกท. ขอฟีฟ่าพิจารณาลดค่าลิขสิทธิ์บอลโลก

ทั้งนี้ ดีไอซี เคยพยายามซื้อกิจการ ลิเวอร์พูล มาแล้วเมื่อปี 2007 แต่ถูกปฏิเสธข้อเสนอมูลค่า 312 ล้านปอนด์ ซึ่ง ซาเมียร์ อัล อันซารี่ ประธานบริหารดีไอซี เคยให้สัมภาษณ์ในปี 2014 ว่าจะจับตาสถานการณ์ของทีมแห่งเมอร์ซีย์ไซด์ อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเจ้าตัวเป็นแฟนตัวยงของสโมสร

ขณะที่นักวิเคราะห์ของ โกลบอลดาต้า บริษัทรับวิเคราะห์ข้อมูลชื่อดัง เปิดเผยว่า ดีลการขาย ลิเวอร์พูล อาจกลายเป็นดีลที่มีมูลค่าสูงที่สุดในวงการกีฬา เพราะเชื่อว่า เอฟเอสจี ตั้งเป้าในการขายสโมสรเอาไว้สูงถึง 4,300 ล้านปอนด์ ซึ่งหากการซื้อขายประสบความสำเร็จ ลิเวอร์พูล จะกลายเป็นทีมที่มีราคาแพงที่สุด ทำลายสถิติของ เดนเวอร์ บรองโก้ส์ ทีมอเมริกันฟุตบอลเอ็นเอฟแอล มูลค่า 4 พันล้านปอนด์ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาลงได้

ไม่พลาดทุกเหตุการณ์ติดตามข่าวจาก PPTV ได้ที่ Subscribe


Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.