ลีกเวียดนามรับทรัพย์ 382.6 ล้าน
สื่อเวียดนามหลายสำนักออกมารายงานตรงกันว่าศึกฟุตบอลอาชีพสูงสุดของเวียดนาม รายการ วีลีก ใน 4 ฤดูกาลหลังจากนี้ได้มีผู้ประมูลสิทธิ์การถ่ายสดผ่านทางทีวีให้มูลค่าสูงถึง 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทย382.6 ล้านบาท นับว่าเป็นยอดเงินจำนวนมหาศาลสำหรับลีกฟุตบอลอาชีพของเวียดนามในการกระจายสัญญาณภาพออกทางช่องทีวี
โดยยอดเงินประมูลลิขสิทธิ์ 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จะถูกแบ่งเป็นปีละ 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ(95.65 ล้านบาท) ในช่วงการแข่งขันวีลีก 4 ฤดูกาล ตั้งแต่ฤดูกาลหน้าเป็นต้นไป โดยจะครอบคลุมฤดูกาล 2023-24,2024-25,2025-26 และ 2026-27 ยอดเงินประมูลสิทธิ์ดังกล่าวถือว่าเป็นยอดตัวเลขที่สูงมากสำหรับวีลีกเวียดนามในฤดูกาลที่ผ่านมา โดยเงินก้อนดังกล่าวเป็นค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดในแพลตฟอร์มทีวีเท่านั้น ยังไม่ครอบคลุมเรื่องของแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งการประมูลสิทธิ์ถ่ายทอดสดครั้งนี้ฝ่ายจัดการแข่งขันฟุตบอลอาชีพเวียดนามได้ผนึกมือกับ FTP กลุ่มองค์กรสื่อใหญ่ของเวียดนาม
การเพิ่มค่าลิขสิทธิ์ครั้งนี้ของวีลีกจะมีผลในแง่ของการมอบงบสนับสนุนให้กับสโมสรต่างๆ จำนวน 13 สโมสร บนลีกสูงสุด เพิ่มขึ้นจากเดิม และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเพิ่มเงินลงทุนให้กับสโมสรในการค้นหาผู้เล่นฝีเท้าดีมาสู่ลีกของประเทศเพื่อพัฒนาศักยภาพนักเตะในประเทศสำหรับต่อยอดให้กับทีมชาติต่อไป
ที่มาของภาพ : ขอบคุณภาพ:Vietnam Post
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.