ไทยลีก กับการเดินทางมาถึง 1 ใน 3 ของฤดูกาล

กลุ่มทีมลุ้นแชมป์ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในฐานะแชมป์เก่ากลับมายึดตำแหน่ง ‘จ่าฝูง’ ได้อีกครั้ง หลังปล่อยให้ ชลบุรี เอฟซี กับ แบงค็อก ยูไนเต็ด ผลัดกันครอง

ปราสาทสายฟ้ายังเป็นทีมเดียว ณ เวลานี้ที่ไม่แพ้ใครเลย ด้วยฟอร์มการเล่นที่คงเส้นคงวามากที่สุด แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะสามารถรักษามาตรฐานแบบนี้ไปถึงปลายทาง

โดยเฉพาะ ‘เกมรับ’ ที่ฤดูกาลปัจจุบัน บุรีรัมย์ ดูจะเสียประตูง่ายกว่าปีที่ผ่านๆ มา

ซีซั่น 2021-22 ที่กลับมาเถลิงบัลลังก์จ้าวแห่งฟุตบอลไทย พวกเขาโดนเจาะตาข่ายไป 19 ลูก จาก 30 นัด

ฤดูกาล 2020-21 ปราสาทสายฟ้าจบด้วยรองแชมป์ แต่ก็ยังเสียไปเพียง 19 ประตู จากจำนวนเกมเท่ากัน

ทว่า ณ ตอนนี้ ผ่านไปเพียง 9 แมตช์ แต่โดนไปแล้ว 10 ลูก ถือเป็นการบ้านที่ มาซาทาดะ อิชิอิ ต้องขบคิด มิเช่นนั้นพวกเขาอาจจะไม่ได้ยืนอยู่หัวตารางเมื่อถึงบั้นปลาย

ชลบุรี รองจ่าฝูงที่เพิ่งถูก แบงค็อก บุกมายัดเยียดความปราชัยถึงถิ่น เท่ากับว่าพวกเขาแพ้ไป 2 เกม แต่เป็นการถูกทีมลุ้นแชมป์ด้วยกันกำราบ ซึ่งยังไม่ถือว่าเสียหายมากนัก หากว่าฉลามชลยังรักษามาตรฐานโดยรวมเอาไว้ได้

เวลานี้ทั่วทุกทิศต่างชื่นชมแนวทางการทำทีมของอดีตแชมป์ ไทยลีก 2007 กันอย่างพร้อมเพรียง โทษฐานที่ปั้นเยาวชนจนเติบใหญ่ และต่อกรกับบรรดาเสือ-สิงห์-กระทิง-แรดในประเทศอย่างสูสี

การที่พวกเขารั้งรองจ่าฝูงของตารางไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ เพราะมันคือการวางรากฐานอย่างมั่นคง อีกทั้งมันคือผลจากการที่ ชลบุรี ให้โอกาสดาวรุ่งลงสนามอยู่เสมอ จนเด็กๆ เริ่มกระดูกแข็ง และกลายเป็นกำลังหลักในปัจจุบัน

แต่จากนี้ไป ต้องดูกันต่อว่าฉลามหนุ่มจะยืนระยะได้ดีเพียงใดในช่วงที่เหลืออยู่ของฤดูกาล

แบงค็อก ที่เพิ่งแพ้นัดแรกของซีซั่น ในเกมที่มาแข่งขันกันต่อกับ ราชบุรี เอฟซี แน่ล่ะมันมีผลในเรื่องของคะแนน ทว่าโดยรวมพวกเขายังคงเป็นทีมลุ้นแชมป์อยู่

อย่างไรก็ตาม ‘ตุลามหาโหด’ อีก 2 นัด ของบียูคือช่วงชี้วัดว่าทัพแข้งเทพจะ ‘ดีพอ’ ที่จะก้าวขึ้นสู่โพเดี้ยมหรือยัง

เริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม ที่จะเปิดบ้านรับมือ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด โดยเกมนี้มีค่ามากกว่า 3 คะแนน เพราะมันส่งผลไป-กลับของทั้งสองทีม

ฟาก บีจี ปทุม หากชนะ พวกเขาจะขยับกลับมาสู่กลุ่มลุ้นแชมป์ทันที แต่ถ้าแพ้ การจะหวนคืนบัลลังก์ก็จะยิ่งยากทวีคูณ และด้วยงบประมาณที่ทุ่มทุนสร้างไป ดีไม่ดีอาจจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในรั้วกระต่ายแก้ว หากว่าปราชัยให้ แบงค็อก จริงๆ

ดังนั้น บิ๊ก แมตช์ ของ ไทยลีก สัปดาห์ที่ 10 จึงห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง

แต่ที่ไม่อาจมองข้ามได้เลยคือ ราชบุรี ที่อาจจะไม่หวือหวานัก แต่พวกเขาสามารถรักษามาตรฐานได้เยี่ยมมากๆ กับการยืนหยัดในอันดับ 4 ของตารางการแข่งขัน

แม้จะยิงได้เพียง 10 ประตู ซึ่งเป็นตัวเลขที่น้อยที่สุดลำดับ 6 ของลีก แต่จุดเด่นในซีซั่นนี้คือการที่เกมรับที่เสียไปเพียง 3 ลูก เท่านั้น (น้อยที่สุดในลีก)

โปรดจับตาให้ดี บางทีราชันมังกรอาจจะทำเซอร์ไพรส์ในบั้นปลายก็ได้ ใครเล่าจะรู้

และที่ลืมไม่ได้ การท่าเรือ เอฟซี ที่อาจจะตามหลัง บุรีรัมย์ ถึง 9 คะแนน แต่ด้วยทรัพยากรตัวผู้เล่น หากว่าพวกเขาปลดล็อกเกมนัดเยือนได้เมื่อไหร่ บวกกับไม่ไปพลาดทำแต้มตกหล่นเรี่ยราด

รับประกันได้เลยว่าสิงห์เจ้าท่าจะเป็นได้ทั้งทีมลุ้นแชมป์และตัวแปรสำคัญของฤดูกาล 2022-23

ส่วนท้ายตาราง ตอนนี้น่าห่วง ลำพูน วอร์ริเออร์ กับ หนองบัว พิชญ เอฟซี ที่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากอย่างเหลือเชื่อ

ราชันโคขาวเลื่อนชั้นมาในฐานะแชมป์ ไทยลีก 2 และก็เสริมทัพมากมาย ซึ่งแต่ละรายล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์ในเวทีสูงสุดของสยามประเทศทั้งนั้น 

ไม่นับรวม เจฟเฟรน ซัวเรซ กับ อาลี่ ชิสโซโก้ 2 แข้งต่างชาติที่ผ่านการเล่นในลีกยุโรป มาโชกโชน

ทว่าถึงตอนนี้พวกเขายังสะกดคำว่าชนะไม่เป็น 

ขณะที่ หนองบัว พิชญ นี่ก็อาการหนัก ฤดูกาลที่แล้วฟอร์มจัดจ้านเกินต้านทาน เป็นของแสลงทีมใหญ่ และจบอันดับ 6 ของตาราง แบบที่ทุกคนต้องตะลึง

แต่มาปีนี้ต้องตะลึงกว่าเมื่อทัพพญาไก่ชนเก็บได้แค่ 4 แต้ม จาก 9 นัด ซึ่งเป็นผลงานที่น่าผิดหวังสุดๆ หากเทียบมาตรฐานจากซีซั่น 2021-22

แล้วสัปดาห์นี้ทั้ง 2 ทีม จะต้องมาเผชิญหน้ากันเสียด้วย มันจึงน่าสนใจตรงที่นี่จะเป็นเกมที่จะสร้าง ‘จุดเปลี่ยน’ ให้กับฝ่ายใด

ทว่าที่น่าห่วงที่สุด ณ ปัจจุบัน คือ เมืองทอง ยูไนเต็ด สโมสรที่มีแฟนฟุตบอลติดตามมากที่สุดของเมืองไทย กับฤดูกาลที่แสนจะหน่วงหนักกับการมีแต้มเหนือโซนตกชั้นแค่ 2 คะแนน

กิเลนผยองเพิ่งจะชนะในลีกแค่นัดเดียวเท่านั้น แถมตอนนี้ก็เก็บชัยไม่ได้เลย 5 เกม ติดต่อกัน

มันเป็นห้วงเวลาที่ย่ำแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร

เมืองทอง เป็นอดีตแชมป์ ไทยลีก 4 สมัย พวกเขาสนับสนุนนักเตะไทย ด้วยการเปิดโอกาสให้ไปโลดแล่นในต่างแดน และก็ไม่มีใครกล้าปฏิเสธเช่นกันว่ากิเลนผยองเป็นหนึ่งในทีมที่มีจุดเด่นในเรื่องของการตลาดที่สามารถเรียกเสียงฮือฮาในวงการลูกหนังได้เสมอ

แต่สถานการณ์ปัจจุบันของพวกเขาถือว่าสุ่มเสี่ยงไม่น้อย

หากสุดสัปดาห์นี้ยังไม่สามารถเก็บ 3 คะแนน จาก ประจวบ เอฟซี ในบ้านตัวเองได้อีก มีโอกาสเหมือนกันที่อันดับของ เมืองทอง จะหล่นลงไปอยู่โซนสีแดง

มาริโอ ยูรอฟสกี้ กับการเต้นรำครั้งสุดท้ายจะเป็นเช่นไร จบเกมกับต่อพิฆาตทุกคนคงจะได้รู้กัน

ไทยลีก กับการเดินทางมาถึง 1 ใน 3 ของฤดูกาล และเรื่องราวที่ยังดำเนินต่อไปด้วยความครื้นเครง