Football Sponsored

ชนาธิป ในวันที่ฟอร์มแกว่ง แต่ยังมีความหวังทาบสถิติ ธีราทร

Football Sponsored
Football Sponsored

เหลือการแข่งขันอีก 2 นัดสำหรับการแข่งขันฟุตบอลเจลีก 1 ฤดูกาล 2022 โดยสถานการณ์การลุ้นแชมป์เวลานี้มีเพียง 2 ทีม คือสโมสรฟุตบอล โยโกฮามา เอฟ มารินอส จ่าฝูงที่ปัจจุบันลงเล่นไป 32 นัด มี 62 คะแนน ขณะที่รองจ่าฝูงต้นสังกัดของ เจ-ชนาธิป สรงกระสินธ์ อย่าง คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ลงสนามไป 32 นัด มี 60 คะแนน 2 เกมหลังจากนี้ใครพลาดทุกอย่างจะจบแบบไม่มีข้อแก้ตัวทันที

เส้นทางฟุตบอลอาชีพของ ชนาธิป ฤดูกาล 2022 ถือว่าต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมายทั้งเรื่องของการปรับตัวในทีมที่ใหญ่กว่า การปรับตัวให้เข้ากับระบบการเล่นของทีม และ อาการบาดเจ็บที่ตามหลอกหลอน

ทุกๆอย่างที่เกิดขึ้นคือสิ่งที่นักเตะอาชีพจะต้องเจอในเรื่องความลำบากในแง่ลบ แต่การต่อสู้ในรูปแบบของทีม ชนาธิป ก็พยามทำงานหนักมาโดยตลอดแม้ว่าจะต้องเผชิญกับแรงกดดันจากหลายๆมุม จนวันนี้มีโอกาสได้ลุ้นแชมป์เจลีกครั้งแรกอย่างเป็นทางการตั้งแต่ย้ายมาเล่นลีกญี่ปุ่นปี 2017

แม้ว่าฟอร์มการเล่นปีนี้อาจจะดูไม่สวยหรูนักหากไปดูตัวเลขการลงสนามแข่งขันและความสำเร็จด้านอื่นๆ แต่ ชนาธิป ยังมีหวังที่เดินทำสถิติเป็นคนไทยคนที่สองที่คว้าแชมป์เจลีก ตามรอย ธีราทร บุญมาทัน ที่เคยคว้าแชมป์กับ มารินอส ปี 2019

สถิติน่าสนใจ ชนาธิป ฤดูกาล 2022

  • ลงเล่น 16 นัด : 955 นาที
  • ระยะทางวิ่ง : 114.8 กม.
  • สปรินท์ : 156 ครั้ง
  • ความเร็วสูงสุด : 32.8 กม./ชม.
  • โอกาสยิงประตู : 6 ครั้ง
  • ยิงประตูตรงเข้ากรอบ : – ครั้ง
  • แอสซิสต์ : 2 ครั้ง
  • ผ่านบอล : 683 ครั้ง
  • ผ่านบอลสำเร็จ : 84  %
  • สร้างโอกาส : 22 ครั้ง
  • ครอสบอล : 15 ครั้ง
  • แย่งบอลชนะ : 26 ครั้ง
  • แทกเกิ้ล : 21 ครั้ง
  • ฟาล์ว : 15 ครั้ง
  • ใบเหลือง : 4 ใบ

ที่มาของภาพ : gettyimages

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.