กตัญญู!เบลลิงแฮมลั่นยังไม่คิดเรื่องย้ายหนีดอร์ทมุนด์
จู๊ด เบลลิงแฮม มิดฟิลด์อนาคตไกลของ ดอร์ทมุนด์ ประกาศชัด ในหัวไม่มีเรื่องการย้ายออกจากทีมเลย โดยบอกว่าถ้าทำอย่างนั้นมันก็เหมือนการเนรคุณ “เสือเหลือง” ที่อุตส่าห์ชุบเลี้ยงตนอย่างดีในช่วงที่ผ่านมา
จู๊ด เบลลิงแฮม กองกลางดาวรุ่งของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ยอดสโมสรแห่งเวที บุนเดสลีกา เยอรมัน กล่าวว่าตอนนี้ตนยังไม่คิดเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะย้ายออกจากทัพ “เสือเหลือง” แม้แต่นิดเดียว
เบลลิงแฮม ย้ายมาอยู่กับ ดอร์ทมุนด์ เมื่อช่วงปี 2020 หลังจากทำผลงานได้โดดเด่นตอนเล่นกับ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ซึ่งนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาแข้งวัย 19 ปีก็มีพัฒนาการที่โดดเด่นจนกลายเป็นแกนหลักคนหนึ่งของทีมได้แล้ว แต่มันก็มีข่าวด้วยว่าหลายทีมคิดที่จะล่าตัวเขาในช่วงซัมเมอร์ ปีหน้า อย่างเช่น ลิเวอร์พูล และ เรอัล มาดริด เป็นต้น
ดาวเตะชาวอังกฤษเผยว่า “สโมสรแห่งนี้ทำหลายต่อหลายอย่างเพื่อผม และทำให้ผมรู้สึกเป็นที่ต้อนรับตั้งแต่วินาทีแรกที่ผมมาอยู่กับที่นี่ แถมยังมอบโอกาสให้ผมได้พัฒนาฝีเท้าของตัวเองมากยิ่งขึ้นไปอีก ถ้าผมจะมองข้ามสิ่งเหล่านั้นแล้วหันไปสนใจอนาคตของตัวเองมันก็คงจะเป็นการกระทำที่ไม่ให้เกียรติกันอย่างมาก พูดกันตามตรงนะ ตอนนี้ผมไม่ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนั้นเลย”
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.