Football Sponsored

“น้าฉ่วย”ตัดใจลา “ตราด เอฟซี” ประกาศอายุขึ้น 68 ยังมีไฟ ลุยฟุตบอลอาชีพ

Football Sponsored
Football Sponsored

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์

“แมวแเก้าชีวิต”แห่งวงการฟุตบอลไทย “น้าฉ่วย” สมชาย ชวยบุญชุม เปิดใจ” คมชัดลึก” ตัดใจลา “ตราด เอฟซี” หลังฝากฝีมือ คุมทีม 1 ฤดูกาล พาจบอันดับ 3 ในตารางไทยลีก 2 เผยยุติหน้าที่ครั้งนี้ เพื่อส่งไม้ต่อ ให้ทีมงานที่ลุยมาด้วยกัน เข้ามาสานต่อ มั่นใจโครงสร้างทีมที่วางไว้เดินไปได้

สมชาย  ฉวยบุญชุม  ” น้าฉ่วย”    ให้สัมภาษณ์กับ “คมชัดลึก”ว่า  ขณะนี้ได้ยุติบทบาทในการทำหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนสโมสรฟุตบอล“ตราด เอฟซี”ทีมใน” ไทยลีก 2″     หลังจากร่วมงานกับสโมสรแห่งนี้มา 1  ฤดูกาล  และพาทีมจบอันดับ 3  ในตารางของไทยลีก 2  การวางมือในการทำหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนตราด เอฟซี  เป็นการหารือร่วมกันกับ  วิเชียร  ทรัพย์ เจริญ   นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตราด และประธานที่ปรึกษาสโมสรฟุตบอลตราด  เอฟซี  ซึ่งเดิมต้องการให้ตนได้อยู่ช่วยงานสโมสร  แต่ด้วยประสบการณ์ตัวเอง ที่ผ่านมา ได้วางแนวทางต่อการพัฒนาทีมเอาไว้แล้ว  และการยุติบทบาท ในการทำหน้าที่ให้กับตราด  เอฟซี  ก็เป็นการส่งไม้ต่อให้กับ หาญณรงค์ ชุษหะคุณากร   ผู้ช่วยหัวหน้าผู้ฝึกสอน ซึ่งร่วมงานกับตนมายาวนาน  และขณะนี้ก็ถือว่ามีประสบการณ์อยู่กับฟุตบอลอาชีพ  

ที่ผ่านมาเมื่อครั้งที่ตนป่วยจากโควิด 19    หาญณรงค์ ชุษหะคุณากร     ก็ดูแลทีม“ตราด เอฟซี” มาโดยตลอด   ดังนั้นจึงคิดว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมแล้ว ในการที่จะส่งมอบภารกิจ ให้กับผู้ที่เหมาะสมเข้ามาทำหน้าที่แทน   การตัดสินใจในการยุติบทบาทหัวหน้าผู้ฝึกสอนตราด เอฟซี  ได้พิจารณาองค์ประกอบหลาย ๆ ด้าน แล้ว เห็นว่า เป็นช่วงเวลาที่หมาะสมที่สุด  เดิมหลังจบฤดูกาลที่ผ่านมา ตั้งใจที่จะพักผ่อน หรือวางมือจากการทำทีมเพราะถึงจุดอิ่มตัว  

แต่ได้รับการร้องขอจากผู้ใหญ่ของสโมสร ตราด เอฟซี ให้นำทีมลงแข่งขันฤดูกาลใหม่คือ 2022/23   กระทั่งได้ผ่านจุดที่วางโครงสร้างให้ทีมลงตัวแล้ว  จึงตัดสินใจวางมืออย่างแท้จริง เพื่อให้ผู้ที่เหมาะสมได้เข้ามาสานต่อ   สถานการณ์ของตราด เอฟซี  แม้ว่าผู้เล่นบางส่วนจะออกไป  โดยเฉพาะในรายของผู้เล่นต่างชาติ  ซึ่งถือว่าเป็นกำลังหลักของทีม   แต่ด้วยโครงสร้างของผู้เล่นทั้งเดิม และใหม่ ที่เสริมเข้ามา  เชื่อว่าจะนำพา ตราด เอฟซี  ให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างแน่นอน 

” ผมประเมินจากปัจจัยหลาย ๆ ส่วน เห็นว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด  จึงขอยุติบทบาท และส่งมอบงานให้กับ”โค้ชหาญ ” หาญณรงค์ ชุษหะคุณากร       ให้เข้ามารับงานแทน  เชื่อว่าด้วยประสบการณ์ของโค้ชหาญ  จะพาทีมไปข้างหน้าได้  ออกมาจากตราด เอฟซี  ครั้งนี้   ยอมรับว่า  อยากเดินหน้ากับเส้นทางฟุตบอลต่อ  ที่ผ่านมาผมเดินทางไปทั่วทุกภาค กับเส้นทางฟุตบอลอาชีพ  ในฐานะหัวหน้าผู้ฝึกสอน  ไม่ว่า เหนือ   อีสาน และ  ภาคกลาง  ยกเว้นภาคใต้ ที่ยังไม่เคยเดินทางไปรับงาน”

” ใจจริงแล้ว ผมอยากทำงานให้กับฟุตบอลทีมชาติไทย  โดยเฉพาะการพัฒนาทีมระดับเยาวชน เพื่อส่งต่อไปสู่ทีมชุดใหญ่  แต่เสียดายที่ไม่ได้รับโอกาส ทั้งที่เคยทำผลงานเมื่อครั้งคุมทีมชาติไทยU19  ในสมัยคุณวรวีร์  มะกูดี  เป็นนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย  แต่เมื่อเกิดความเปลี่ยนแปลงในสมาคมกีฬาฟุตบอล บทบาทตรงนั้นจึงสิ้นสุดลง  วันนี้ ในอายุ   68 ปี   ผมร่วมงานกับสโมสรฟุตบอลอาชีพ 11   สโมสร  “

“ผมยังมีไฟในการทำงาน  และพร้อมจะเดินหน้าต่อกับสโมสรฟุตบอล ที่ต้องการให้ผมเข้าไปช่วยพัฒนา การออกมาจากตราด เอฟซี  ผมออกมาเพียงลำพัง  หากได้งานใหม่  ผมก็พร้อมที่จะจัดทีมงานขึ้นมา  เพื่อเข้าไปทำทีม ๆ    ผมมีฉายาว่า “แมวเก้าชีวิต”แห่งวงการฟุตบอล  ซึ่งแต่ละฤดูกาลในการทำทีมฟุตบอล  เรื่องราวของตัวเองก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ คือ ไม่สามารถอยู่ได้ยาวนาน  แม้ว่าจะพาทีมประสบความสำเร็จ  ทั้งกับศรีสะเกษ  เอฟซี ,  หนองบัวพิชญ เอฟซี  จนมาถึงตราด เอฟซี ”   สมชาย  กล่าว 

ตราด เอฟซี ฤดูกาล 2021 /22  ภายใต้การคุมทีมของ สมชาย ฉวยบุญชุม “น้าฉ่วย” หัวหน้าผู้ฝึกสอน  โดยล่าสุดเจ้าของฉายา”แมวเก้าชีวิต” แห่งวงการฟุตบอล  ได้ประกาศยุติบทบาท ในการทำหน้าที่ให้กับตราด เอฟซี  ออกหาต้นสังกัดใหม่

.

 ภาพโดย: คณัสนันท์ แววคล้ายหงษ์   #ช่างภาพตัวดำ  และ ตราด เอฟซี

 .

ติดตาม คมชัดลึก ที่นี่
เพิ่มเพื่อน Line: https://lin.ee/qw9UHd2
YouTube Official : https://youtube.com/user/KOMCHADLUEK 
 

เช็กรายชื่อศิลปินเข้าชิง “คมชัดลึก ลูกทุ่ง Awards 2565” ใครคือ 6 Candidate กับ 8  สาขา Popular Vote ได้ที่นี่   

 (https://awards.komchadluek.net/#)

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.