สอยคิวเวลช์โอเพ่นกับภารกิจรับมือโควิด-19

ใกล้เข้ามาแล้ว สำหรับการแข่งขันสนุกเกอร์รายการเวลช์โอเพ่น 2021 ทัวร์นาเมนต์ลำดับที่ 13 ของฤดูกาล 2020-2021 มีการชิงเงินรางวัลรวม 405,000 ปอนด์ หรือประมาณ 16 ล้านบาท ซึ่งจะชิงชัยระหว่างวันที่ 15-21 กุมภาพันธ์นี้

ผู้ที่คว้าแชมป์ นอกจากจะคว้าถ้วยรางวัล “เรย์เรียร์ดอนโทรฟี่” แล้ว ยังจะเป็นเจ้าของเงินรางวัล 70,000 ปอนด์ หรือประมาณ 2,800,000 บาทอีกด้วย

สำหรับเวลช์โอเพ่น 2021 นอกจากจะเป็นทัวร์นาเมนต์สุดท้ายของรายการประเภทโฮมเนชั่นส์ซีรี่ส์แล้ว โดยต่อจาก อิงลิชโอเพ่น 2020, นอร์เทิร์นไอร์แลนด์โอเพ่น 2020 และสกอตติชโอเพ่น 2020

รายการนี้ ยังเป็น 1 ใน 6 รายการประเภทยูโรเปี้ยนซีรี่ส์ ร่วมกับ ยูโรเปี้ยนมาสเตอร์ส 2020(2)(แข่งแล้ว), แชมเปี้ยนชิพลีก 2020(2)(แข่งแล้ว), เยอรมาสเตอร์ส 2021(แข่งแล้ว), ชู้ตเอาต์ 2021(แข่งแล้ว) และยิบรอลตารโอเพ่น 2021(ยังไม่แข่ง)

โดยเบทวิคเตอร์(BetVictor) บริษัทพนันชื่อดังสัญชาติยิบรอลตาร์ จะมอบเงินโบนัส 150,000 ปอนด์ หรือประมาณ 6,100,000 บาท ให้กับนักสนุกเกอร์ที่ทำเงินรางวัลได้มากที่สุดในบรรดา 6 รายการประเภทยูโรเปี้ยนซีรี่ส์

ในขณะนี้ จัดด์ ทรัมป์ เจ้าของแชมป์เยอรมันมาสเตอร์ส 2021 คือนักสอยคิวที่ทำเงินรางวัลใน 6 รายการยูโรเปี้ยนซีรี่ส์ได้มากที่สุด และหากนักสอยมือ 1 ของโลกรายนี้ คว้าแชมป์เวลช์โอเพ่น 2021 มาครองได้สำเร็จ มีโอกาสสูงที่เขาจะคว้าเงินโบนัส 150,000 ปอนด์จากเบทวิคเตอร์ ไปครองอีก 1 ปีติดต่อกัน แม้จะเหลือศึกยิบรอลตาร์โอเพ่น 2021 อีก 1 รายการก็ตาม

อีก 1 เรื่องที่น่าสนใจ ของศึกเวลช์โอเพ่นในครั้งที่กำลังจะอุบัติขึ้นก็คือ จะเป็นทัวร์นาเมนต์แรกของฤดูกาลนี้ ที่จะไม่ได้แข่งขันในมาร์แชลอารีน่า เมืองมิลตันคีนส์ ประเทศอังกฤษ

   เป็นที่ทราบกันดีว่า มาร์แชลอารีน่า ภายในสนามฟุตบอลของสโมสรฟุตบอลมิลตัน คีนส์ ดอนส์ คือสถานที่ที่เวิลด์สนุกเกอร์ทัวร์(WST) ไว้วางใจให้จัดการแข่งขันทุกรายการที่ผ่านมาของซีซั่นนี้ เนื่องจากมีระบบการคัดกรองและจัดการแข่งขันที่ปลอดภัยจากไวรัสโควิด-19 มากที่สุด

   ทว่าพอถึงศึกเวลช์โอเพ่น 2021 องค์กรคิวโลก ต้องการให้นักสนุกเกอร์เปลี่ยนบรรยากาศไปแข่งขันที่อื่นบ้าง เพื่อไม่ให้เบื่อหรือจำเจมากเกินไป อีกทั้งยังต้องการให้ศึกเวลช์โอเพ่น ไปแข่งขันที่ประเทศเวลส์ตามเดิม จึงตัดสินใจย้ายการแข่งขันไปจัดที่เซลติกมาเนอร์รีสอร์ต เมืองนิวพอร์ต ประเทศเวลส์

    พร้อมกับจะเป็นครั้งแรกที่สถานที่แห่งนี้ จะได้จัดการแข่งขันสนุกเกอร์ หลังจากเคยเป็นสังเวียนจัดการแข่งขันกอล์ฟรายการใหญ่มาแล้วหลายรายการ โดยเฉพาะศึกไรเดอร์คัพเมื่อปี 2010

    อย่างไรก็ตาม มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากแฟนสนุกเกอร์จำนวนไม่น้อย ที่ออกมาตำหนิว่า เหมาะสมแล้วหรือไม่ที่จะจัดการแข่งขันสนุกเกอร์ขึ้นในสถานที่อื่น นอกจากมาร์แชลอารีน่า ในภาวะที่ต้องเผชิญกับวิกฤติโควิด-19 อยู่แบบนี้

   ในปัจจุบัน เชื้อโควิด-19 ใน 4 ประเทศสหราชอาณาจักร(อังกฤษ,สกอตแลนด์,เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ) ได้กลายพันธุ์ จนเป็นไวรัสที่อันตรายที่สุดในโลก สามารถแพร่กระจายจากคนสู่คนได้อย่างรวดเร็ว จนหลายประเทศในยุโรป ขึ้นบัญชีดำ 4 ประเทศในยูเคไปแล้วว่า พร้อมกับห้ามสายการบินจากอังกฤษ, สกอตแลนด์, เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ เข้าสู่ประเทศเป็นอันขาด

    ส่งผลกระทบให้หลายสโมสรฟุตบอลอังกฤษ ที่มีคิวเตะยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก และยูโรป้าลีก ไม่สามารถเดินทางเข้าไปเตะในเยอรมัน,สเปนและโปรตุเกสได้ เพราะ 3 ประเทศนี้ ไม่ยินยอมให้อากาศยานจากยูเคบินเข้า

    มีผลให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มีคิวไปเยือน โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ของเยอรมัน ต้องไปเตะสนามกลางที่ฮังการีแทน, เช่นเดียวกับ ลิเวอร์พูล ที่มีโปรแกรมบุกไปเตะกับ ไลป์ซิก จากเยอรมัน ก็ต้องโยกไปเตะสนามกลางที่ฮังการีเช่นกัน ส่วน เชลซี ที่มีคิวไปเยือน แอตเลติโก มาดริด จากสเปน ต้องย้ายไปเล่นสนามกลางที่โรมาเนีย

ด้านแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ต้องไปเยือน เรอัล โซเซียดาด จากสเปน ต้องย้ายไปเล่นที่ยูเวนตุสสเตเดี้ยมในอิตาลี ขณะที่ อาร์เซนอล ซึ่งมีโปรแกรมไปเยือนเบนฟิก้า จากโปรตุเกส ต้องย้ายไปเตะที่กรุงโรมประเทศอิตาลีเช่นกัน

จะเห็นได้ว่า สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ในอังกฤษ น่าวิตกกังวลเป็นอย่างมาก จึงน่าเป็นห่วงไม่น้อย ที่องค์กรคิวโลก ตัดสินใจเปลี่ยนสถานที่แข่งขันในครั้งนี้ แทนที่จะให้ดวลคิวที่มาร์แชลอารีน่าเหมือนทุกรายการที่ผ่านมา

เพราะยังไม่รู้ว่า เซลติกมาเนอร์รีสอร์ต สถานที่จัดการแข่งขันเวลช์โอเพ่น 2021 จะสามารถรับมือกับวิกฤติโรคระบาดได้ดีเพียงใด

– ถิรพัฒน์ ณ ลำปาง –

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport

Tags: footballfootball clubกีฬาถ่ายทอดผลการแข่งขันฟุตบอลสดสโมสรฟุตบอลแข่งขัน

4 ปี ago

ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง