ถึงเวลาผงาดแล้ว! “คาวานี่” มั่นใจซีซั่นนี้แมนยูมีแชมป์
เอดินสัน คาวานี่ หัวหอกตัวเก๋า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เชื่อซีซั่นนี้ “ปีศาจแดง” มีแชมป์แน่นอน พร้อมเร้าเพื่อนร่วมทีมอย่าสูญเสียความกระหายที่จะประสบความสำเร็จ
เอดินสัน คาวานี่ กองหน้าดาวดังของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แสดงความมั่นใจว่า ฤดูกาลนี้ต้นสังกัดของตนจะปิดฉากด้วยการมีถ้วยแชมป์ติดไม้ติดมืออย่างแน่นอน
ตอนนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศในศึก ยูฟ่า ยูโรปา ลีก เรียบร้อย หลังบุกเชือด เอซี มิลาน 1-0 ในเกมรอบ 16 ทีมสุดท้าย เลกสอง (รวมสองนัดชนะ มิลาน 2-1) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 18 มีนาคม ที่ผ่านมา และวันอาทิตย์ที่ 21 มีนาคมนี้ พวกเขามีคิวบุกไปเยือน เลสเตอร์ ซิตี้ ในศึก เอฟเอ คัพ รอบก่อนรองฯ ซึ่ง คาวานี่ มองว่า ฤดูกาลนี้ถึงเวลาแล้วที่ “ปีศาจแดง” จะมีถ้วยแชมป์ประดับบารมี หลังจากที่ไร้ความสำเร็จมานานร่วม 4 ปี (แชมป์ล่าสุดคือ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก เมื่อฤดูกาล 2016/17)
“ถ้าเราทุกคนต่างมีความเชื่อมั่นว่า เราสามารถประสบความสำเร็จตามที่เราต้องการได้ ผมว่าเราสามารถทำได้ นั่นแหละที่ว่าทำไมผมถึงบอกว่า ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับเราเอง มันขึ้นอยู่กับว่า เรากระหายความสำเร็จมากแค่ไหน” หัวหอกทีมชาติอุรุกวัยวัย 34 ปี กล่าว
สำหรับฤดูกาลนี้ คาวานี่ ซึ่งย้ายมาจาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง แบบฟรีๆ เมื่อช่วงซัมเมอร์ปีก่อน ลงเล่นให้ “ปีศาจแดง” ไปแล้วรวมทุกรายการ 25 นัด ทำได้ 7 ประตู
อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.