Football Sponsored

เขี่ยทีมใหญ่ร่วงมาแล้ว! 2 ข้อดี 2 ข้อเสียเมื่อแมนยูจับชนกรานาด้า

Football Sponsored
Football Sponsored

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจจะโชคดีไม่น้อยเมื่อพวกเขาจะได้พบกับ กรานาด้า ในยูโรปา ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย โดยปกติแล้ว โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ไม่ค่อยมีดวงกับการจับสลากมากนักเพราะมักจะเจอกับทีมแกร่งเป็นส่วนใหญ่ทว่าในครั้งนี้ถือว่าทำแฟนผีแฮปปี้ไม่น้อย แต่แน่นอนว่ามันมีทั้งข้อดีและข้อเสียสำหรับการจับสลากครั้งนี้

ข้อดี

1.ขาดประสบการณ์ฟุตบอลยุโรป

    หากจะมองถึงชื่อชั้นระหว่าง แมนฯ ยูไนเต็ด กับ กรานาด้า แล้ว ต้องบอกว่าคนละโลกกันเลยก็ว่าได้ ถ้ารอบก่อนหน้านี้ที่เจอกับ เอซี มิลาน นั้นเป็นเหมือนกับเกมในฟุตบอลยุโรปถ้วยใหญ่ รอบนี้ก็ถือว่าเป็นคู่ต่อสู้ที่เหมาะสมกับเกมใน ยูโรปา ลีก 

    แน่นอนว่า แมนฯ ยูไนเต็ด มีประสบการณ์ในฟุตบอลยุโรปมาอย่างโชกโชนและเข้ารอบลึกๆมาหลายครั้ง ตรงข้ามกับ กรานาด้า ที่เพิ่งจะลงแข่งขันรายการฟุตบอลยุโรปเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสรหลังจากจบอันดับที่ 7 เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ความกดดันในรอบนี้มีมากทีเดียวและผู้เล่นกรานาด้าที่ยังไม่เคยมาถึงจุดนี้คงต้องรับมือกับมันให้ได้

2.ความมั่นใจจากการชนะโซเซียดาด

    แมนฯ ยูไนเต็ด เคยเจอกับทีมจากสเปนมาแล้วในรอบน็อคเอาท์ฤดูกาลนี้นั่นคือ เรอัล โซเซียดาด ซึ่งตอนนี้ อยู่ในอันดับเหนือกว่า กรานาด้า 4 ที่และยังมีแต้มมากกว่า กรานาด้า ถึง 9 แต้มในลาลีกา แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ยังสามารถบุกถล่ม โซเซียดาด ขาดลอยถึง 4-0 เมื่อเดือนที่แล้ว

    แน่นอนว่า กรานาด้า มาถึงรอบนี้ได้คงไม่ใช่เรื่องฟลุ๊ค แต่ “ผีแดง” สามารถใช้ผลการแข่งขันที่เคยเจอกับ โซเซียดาด มาโชว์ให้เห็นว่าไม่มีเรื่องอะไรที่พวกเขาต้องเกรงกลัว ถ้าวัดกันตัวต่อตัวๆนี่ถือเป็นคู่ต่อสู้ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ควรชนะได้ทั้งไป-กลับเลยด้วยซ้ำ

ข้อเสีย

1.ทีมเล็กผียี้

    แฟน “ผีแดง” ย่อมรู้ดีว่าทีมรักของตัวเองถนัดในการเล่น เคาน์เตอร์ แอ็กแท็ก หรือทีมที่พร้อมมาเปิดเกมรุกสู้กันมากกว่า พวกเขามักจะมีปัญหาในเจอกับคู่แข่งที่ตั้งใจมาเน้นเกมรับซึ่งส่วนใหญ่เป็นทีมที่ชื่อชั้นเป็นรอง แมนฯ​ ยูไนเต็ด

    ฟุตบอลสเปนอาจจะเน้นความสวยงามหรือฟุตบอลบนพื้นเป็นหลักแต่มันคงเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์พอสมควรหาก กรานาด้า ที่คุณภาพผู้เล่นด้อยกว่ามันเปิดหน้าแลกกับ แมนฯ ยูไนเต็ด 

    ฤดูกาลนี้ทีมของ โซลชา พลาดท่าให้ทีมอย่าง เวสต์บรอมวิชฯ หรือ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด มาแล้ว คู่ต่อสู้ไม่เปิดพื้นที่ให้เล่นง่ายพร้อมใช้จังหวะสวนกลับและเซ็ตพีซเปลี่ยนให้เป็นประตู แมนฯ ยูไนเต็ด แทบจะทำอะไรไม่ได้จนแฟนบอลอึดอัดตามด้วย กรานาด้า อาจจะต้องศึกษาการเล่นจากทีมเหล่านี้

2.มีประสบการณ์ล้มยักษ์มาแล้ว!

    กรานาด้า เพิ่งจะกลับมา ลาลีกา ในปี 2019 นี้เอง แต่ผลงานของกุนซือ ดีเอโก้ มาร์ติเนซ น่าประทับใจเมื่อพาทีมจบอันดับที่ 7  จนผ่านเข้าสู่ ยูโรปา ลีก รอบคัดเลือกได้สำเร็จ และฤดูกาลนี้ถือว่ารักษาผลงานได้ดี เมื่อรั้งอันดับ 8 ของตารางโดยเก็บคะแนน 36 แต้มจาก 27 เกม พวกเขาเอาชนะได้ทั้ง แอธเลติก บิลเบา, เซบีย่า และ บาเลนเซีย และยังแอบมีลุ้นพื้นที่ฟุตบอลยุโรปถ้วยเล็ก (ห่างอันดับ 6 อยู่ 9 แต้ม แต่แข่งน้อยกว่า 1 นัด)

    ส่วนในรายการ ยูโรปา ลีก นั้น พวกเขาจบอันดับสองของกลุ่มที่ประกอบด้วย พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น, พีเอโอเค และ โอโมเนีย โดยสามารถบุกชนะทีมแกร่งอย่าง พีเอสวี ได้ด้วย ทว่าในรอบ 32 ทีม กรานาด้า ต้องเจองานหนักเมื่อจับสลากมาพบกับ นาโปลี แต่กลายเป็นว่าเกมในบ้านโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมด้วยการชนะ นาโปลี 2-0 แม้ว่านัดที่สองจะบุกพ่าย 2-1 แต่ยังเข้ารอบด้วยผลรวมประตูสองนัด ก่อนจะมาชนกับทีมเก่าของ โซลชา อย่าง โมลด์ ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายพร้อมเก็บผลการแข่งขันไป-กลับด้วยสกอร์เดียวกันกับตอนเจอ นาโปลี 

    นอกจากพวกเขามีประสบการณ์ล้มทีมอย่าง นาโปลี มาแล้ว ดีเอโก้ มาร์ติเนซ กุนซือกรานาด้าเคยเป็นหนึ่งในทีมงานผู้ช่วยโค้ชของเซบีย่าที่คว้าแชมป์ยูโรปา ลีก มาแล้วด้วย แมนฯ ยูไนเต็ด คงประมาทไม่ได้แน่นอน

“Zvo”

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.