Football Sponsored

บีจีปทุมคว้า “กนกพล ปุษปาคม” ร่วมทีมลุยศึกใหญ่เอซีแอล 2022

Football Sponsored
Football Sponsored

สโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ประกาศคว้าตัว “บอส” กนกพล ปุษปาคม กองกลางวัย 22 ปี เข้ามาร่วมทัพอย่างเป็นทางการ หลังนักเตะหมดสัญญากับ โปลิศ เทโร เอฟซี พร้อมเตรียมส่งชื่อประเดิมลุยศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม ให้กับทัพ “เดอะ แรบบิท” ที่จะเปิดสนามในวันที่ 15 เม.ย.นี้

    โดย กนกพล กล่าวถึงการย้ายมาเล่นในถิ่น บีจี สเตเดี้ยม ว่า “รู้สึกดีใจมาก ๆ ครับ ที่ได้เข้ามาในสโมสรแห่งนี้ ที่นี่มีความเป็นมืออาชีพและมีความพร้อมในทุก ๆ ด้าน บีจี ปทุมฯ เป็นสโมสรที่มีคุณภาพมาก ๆ ผมเคยมาสนาม บีจี ตั้งแต่สมัยผมเป็นเด็กได้ดูคุณพ่อเป็นโค้ชในที่แห่งนี้ทำให้ผมรู้สึกดีใจมาก ๆ ที่ตัวเองได้เดินตามคุณพ่ออีกขั้นครับ”

    “ตอนนี้ผมรู้สึกตื่นเต้นที่กำลังจะได้เล่นกับพวกพี่ ๆ ทุกคน ซึ่งบางคนเคยเจอกันในสนามบางคนไม่เคยเจอกันพี่ ๆ ทุกคนเป็นกันเองให้การต้อนรับผมเป็นอย่างดี ผมเองก็ดีใจที่ได้ซ้อมกับนักฟุตบอลที่เราเคยเห็นในทีวีบ้าง และที่เราชื่นชอบกันตั้งแต่เด็กครับ แน่นอนว่าเป้าหมายของผมตอนนี้ก็ขอตั้งใจซ้อมกับทีมให้เต็มที่ในช่วงเดือน 2 เดือนแรก ผมรู้สึกดีใจที่ได้รับการแนะนำสั่งสอนจากโค้ชและทีมงานสตาฟฟ์ทุกคน และตัวผมเองก็จะพยายามเป็นกำลังเสริมคอยช่วยเหลือพี่ ๆ เมื่อตอนได้รับโอกาสครับ ก็ขอฝากเนื้อฝากตัวกับแฟนฟุตบอลบีจีด้วยนะครับ ทุกคนเป็นกันเอง ผมและพวกพี่ ๆ ทีมงานสตาฟฟ์โค้ชจะทำงานหนักเพื่อให้ฤดูกาลนี้เราประสบความสำเร็จครับผม”

    สำหรับ “บอส” กนกพล ปุษปาคม กองกลางวัย 22 ปี เป็นบุตรชายของ “โค้ชแต๊ก” อรรถพล ปุษปาคม อดีตกุนซือผู้ล่วงลับของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เริ่มเล่นฟุตบอลอาชีพในปี 2019 กับสโมสรโปลิศ เทโร เอฟซี ชุด บี ก่อนที่ในเลกที่สองของฤดูกาลดังกล่าวจะก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของทัพ “มังกรโล่เงิน” และเป็นส่วนสำคัญในการพาต้นสังกัดเลื่อนชั้นขึ้นสู่ไทยลีก 1 ได้อีกครั้ง

    จากนั้นในฤดูกาล 2020-21 เจ้าตัวทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมก่อนพาทีมจบอันดับ 11 ของตาราง นอกจากนี้ยังมีชื่อก้าวขึ้นไปติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ในการเก็บตัวช่วงฟีฟ่า เดย์ เมื่อเดือนตุลาคม 2020 จากนั้นในช่วงเลกแรกของฤดูกาล 2021-22 ลงสนามให้โปลิศ เทโร เอฟซี ไปทั้งหมด 9 นัด(ตัวจริง 6 สำรอง 3) ก่อนจะย้ายมาทัพ “เดอะ แรบบิท” ในที่สุด

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.