Football Sponsored

อบราโมวิช-เจ้าหน้าที่เจรจาสันติภาพรัสเซีย ป่วยกะทันหัน คาดอาจถูกวางยาพิษ

Football Sponsored
Football Sponsored

ผู้แทนหลายคนของรัสเซียที่ข้าร่วมการเจรจาสันติภาพกับยูเครน มีอาการป่วยกะทันหันซึ่งเชื่อว่าอาจเกิดจากการถูกลอบวางยาพิษ หลังจากร่วมประชุมในกรุงเคียฟในเดือนนี้ อ้างอิงจากรายงานของวอลสตรีทเจอนัล

โรมัน อบราโมวิช มหาเศรษฐีชาวรัสเซียเจ้าของทีมฟุตบอลเชลซีในอังกฤษ และสมาชิกระดับสูงของยูเครนอีกอย่างน้อย 2 คน รวมทั้ง รัสเตม อูเมรอฟ นักการเมืองจากแคว้นไครเมีย ต่างมีอาการป่วยเล็กน้อย ซึ่งรวมถึงตาแดงและแสบตา น้ำตาไหลไม่หยุด ผิวหนังลอกบนใบหน้าและมือ ซึ่งอาการเหล่านี้ได้ทุเลาลงแล้วและไม่คุกคามถึงชีวิต

กลุ่มผู้สื่อข่าวแนวสืบสวน เบลลิงแคท (Bellingcat) เปิดเผยรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ร่วมสืบสวนเรื่องนี้ว่า ผู้แทนของรัสเซียและยูเครนอาจถูกลอบทำร้ายด้วยอาวุธเคมีที่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นชนิดใด และเชื่อว่าผู้กระทำการนี้ต้องการเพียงแค่ข่มขู่เท่านั้นแต่มิได้มุ่งหมายเอาชีวิตหรือทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส

วอลสตรีทเจอนัล ชี้ว่า ยังไม่ชัดเจนว่าใครหรือกลุ่มบุคคลใดอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ แต่ผู้ที่ถูกทำร้ายเชื่อว่าเป็นฝีมือของผู้ที่มีความคิดสุดโต่งในรัฐบาลกรุงมอสโกที่ต้องการขัดขวางการเจรจาสันติภาพ

ทางสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายอูเมรอฟซึ่งถูกระบุว่าเป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกทำร้าย บอกว่าอย่าเพิ่งเชื่อรายงานที่ยังไม่ได้รับการยืนยัน ขณะที่ มีไคโล โพโดลยัก ผู้แทนการเจรจาของยูเครน กล่าวว่ามีข่าวลือมากมายในเวลานี้ รวมทั้งทฤษฎีสมคบคิดต่าง ๆ ด้วย

ทางด้านรัฐบาลรัสเซียยังมิได้แสดงความเห็นในเรื่องนี้แต่อย่างใด

ทั้งนี้ โรมัน อบราโมวิช มหาเศรษฐีนักธุรกิจชาวรัสเซีย คือผู้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน และเป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกใช้มาตรการลงโทษจากชาติตะวันตกซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจต่าง ๆ ของเขา รวมทั้งสโมสรฟุตบอลเชลซีที่เขาเป็นเจ้าของ

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว วอลสตรีทเจอนัลรายงานว่า ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ได้ขอให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยกเว้นการลงโทษนายอบราโมวิช โดยให้เหตุผลว่ามหาเศรษฐีชาวรัสเซียผู้นี้อาจช่วยไกล่เกลี่ยให้เกิดข้อตกลงสันติภาพได้

  • ข้อมูลบางส่วนจกรอยเตอร์และเอเอฟพี
Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.