Football Sponsored

แข้งเขี้ยวสมุทรรายนี้ อดีตโค้ชยช.ทีมชาติ ชูสุดยอด

Football Sponsored
Football Sponsored

ใกล้ปิดฉากแล้วสำหรับศึกฟุตบอลไทยลีก 1 ฤดูกาล 2020-21 ปีนี้การแข่งขันแม้ว่าจะต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง แต่ว่าสิ่งที่น่าสนใจคือบรรดานักเตะหน้าใหม่หน้าเก่าที่ก้าวขึ้นมาเขย่าวงการฟุตบอลไทย หลายคนโชว์ฟอร์มได้ดีจนเกิดเป็นมาตรฐานต่อเนื่องเจิดจรัสสะบัดแสงจนกลายเป็นดาวดวงสำคัญของวงการฟุตบอลไทย

    หนึ่งในหลายคนที่แจ้งเกิดชื่อของ นิว-พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี  ยอดกองกลางกัปตันทีม “เขี้ยวสมุทร”สมุทรปราการ ซิตี้ แม้ว่าจะมีโผก้าวไปติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ก่อนหน้านี้แล้วก็ตาม แต่มาตรฐานการเล่นกับต้นสังกัดในฤดูกาลนี้ “นิว”โชว์ฟอร์มการเล่นได้ดีอย่างสม่ำเสมอสร้างความแตกต่างในการเล่นได้อย่างชัดเจนจนได้รับคำชมอย่างมากมายในวิธีการเล่นในสนามแข่งขันจนมีหลายคนมองว่าถึงเวลาที่แข้งรายนี้น่าจะออกไปหาความท้าทายในการเป็นนักเตะอาชีพต่างแดน

    “น้าติ๊ก”สมชาติ  ยิ้มศิริ อดีตกุนซือเยาวชน 17 ปี ทีมชาติไทยชุดชิงแชมป์โลก ปี 1999 ออกมาชื่นชมฟอร์มการเล่นของ นิว-พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี  ลูกชายอดีตทีมชาติไทย อย่าง ประภาส ฉ่ำรัศมี ว่า เท่าที่ตามดูมาหลายเกมเขาเป็นนักเตะที่มีคุณสมบัติที่ดีมากคนหนึ่งในยุคนี้ทักษะการเล่นปฏิภาณไหวพริบในสนามแสดงออกด้านบวกอย่างชัดเจน ที่น่าสนใจมากๆเด็กคนนี้จ่ายบอลออกจากเท้าแต่ละครั้งมีความหมายมากๆ เพราะนอกจากจะได้เปรียบคู่ต่อสู้แล้วยังสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมมากมาย อนาคตน่าติดตามไม่น้อยสำหรับนักเตะรายนี้

    สำหรับ นิว-พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี   ปัจจุบันอายุ 28 ปี เล่นในตำแหน่งกองกลาง ให้กับสโมสรฟุตบอลสมุทรปราการ ซิตี้  พัฒนาฝีเท้าของตัวเองอย่างต่อเนื่อง อดีตที่ผ่านมามีคุณพ่อประภาส ฉ่ำรัศมี คอยให้คำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องของฟุตบอล และเริ่มต้นในระดับเยาวชนกับโรงเรียนเทพศิรินทร์,เยาวชนสโมสรทีทีเอ็ม เอฟซี,จามจุรี,เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และ พัทยา ยูไนเต็ด

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.