Football Sponsored

อยู่หรือไป?ลาปอร์ต้าเผยเมสซี่ส่งข้อความหาหลังได้เก้าปธ.บาร์เซโลน่า

Football Sponsored
Football Sponsored

โจน ลาปอร์ต้า ประธานสโมสร “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า คนใหม่ เปิดเผยว่าเขาได้รับข้อความจาก ลิโอเนล เมสซี่ ภายหลังได้รับคะแนนโหวตแบบท่วมท้นนั่งเก้าอี้ประธานสโมสรคนใหม่อย่างเป็นทางการ

    โจน ลาปอร์ต้า เปิดเผยหลังได้รับเลือกนั่งเก้าอี้ประธานสโมสรบาร์เซโลน่า มหาอำนาจลูกหนังแห่งศึกลา ลีกา สเปน หลังได้รับเสียงโหวต 54.28 เปอร์เซ็นต์ โดยเอาชนะ  บิคตอร์ ฟอนต์ ที่ได้รับโหวต 29.99 เปอร์เซนต์ และ โตนี่ เฟรชา ได้คะแนนโหวตแค่ 8.58 เปอร์เซนต์เท่านั้น หลังจากนับคะแนนครบ 100 เปอร์เซ็นต์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา   

    โดยหนึ่งในหัวข้อสำคัญที่อยู่ในแคมเปญการเลือกตั้งของเขาก็คือ อนาคตของ เมสซี่ ซึ่งสามารถเดินทางออกจาก บาร์เซโลนา แบบฟรีเอเยนต์ในช่วงซัมเมอร์นี้

    ลาปอร์ต้า ซึ่งมีความสัมพันธ์ที่ดีกับดาวเตะอาร์เจนตินา ตั้งแต่ตอนเป็นนั่งเป็นประธานครั้งก่อน  – มั่นใจมาโดยตลอดว่า เขาสามารถโน้มน้าวให้ เมสซี่ อยู่ที่สโมสรได้ โดยเจ้าตัวพูดกับวิทยุกาตาลุนย่า ในเช้าวันจันทร์ว่า “เป็นเรื่องดีมากที่ได้เห็นเมสซี่ลงคะแนน ยังเป็นข้อพิสูจน์อีกมากว่าเขารักบาร์ซ่า”

    “ผมเชื่อมั่นว่าเขาต้องการที่จะอยู่ต่อ และแน่นอนเขาแสดงความยินดีกับผมที่ชนะการเลือกตั้ง ซึ่งกับเหมือนเขาก็ได้รับชัยชนะเมื่อวานนี้ด้วย อีกไม่นานเราจะคุยกันอย่างเงียบ ๆ และตัดสินใจอนาคตของเขา”

    “ผมจะโทรหา ลิโอเนล เมสซี ผมจะโน้มน้าวให้ ลีโอ อยู่ต่อหรือไม่? มันจะขึ้นอยู่กับเขา”

    “ผมจะทำในสิ่งที่ทำได้ ภายใต้ความเป็นไปได้ทางเศรษฐกิจของสโมสร เพื่อให้เขาอยู่ที่บาร์ซ่า” 

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.