เคนตามรอย! ย้อนดู5แข้งดังสร้างวีรกรรมแสบกับต้นสังกัด – สยามกีฬา

ในวงการลูกหนังการย้ายทีมนั้นถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้กับนักเตะทุกคน ไม่ว่าจะอยู่กับสโมสรไหนบนโลกใบนี้ ซึ่งอยู่ที่ว่าบรรดาแข้งเหล่านั้นจะอำลาสโมสรต้นสังกัดไปแบบฮีโร่ หรือจะจากไปแบบไร้เยื่อใยที่พร้อมทำทุกวิถีทางไม่ว่าดีหรือร้ายให้ต้นสังกัดปล่อยตัวไปอยู่กับทีมอื่น

    เฉกเช่นกับในกรณีล่าสุดของ แฮร์รี่ เคน กองหน้าจาก ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่แสดงพฤติกรรมงัดข้อกับสโมสร หลังไม่เดินทางมารายงานตัวร่วมฝึกซ้อมกับทีมเป็นวันที่สองติดต่อกันเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาเพื่อเตรียมความพร้อมอุ่นเครื่องก่อนที่ฤดูกาล 2021/22 จะเปิดฉากฟาดแข้งกันในสัปดาห์หน้า ส่งผลให้ “ไก่เดือยทอง” ต้องลงโทษตามมาตรการทางวินัยด้วยการปรับเงิน 

    จากเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเชื่อว่ากัปตันทีมชาติอังกฤษส่งสัญญาณไปถึง แดเนียล เลวี่ เพื่อเรียกร้องให้รับข้อเสนอจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ยื่นขอซื้อตัวเขาไปร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ แม้ว่าจะมีบางกระแสระบุว่าสาเหตุที่ เคน ไม่ยอมมารายงานตัวกับ สเปอร์ส เนื่องจากต้องปฏิบัติตามกฎข้อบังคับการกักตัวเป็นเวลา 10 วัน หลังจากที่เขาและครอบครัวเดินทางกลับมาจากการไปพักผ่อนที่ประเทศบาฮามาสก็ตาม 

    ทั้งนี้หากเป็นไปตามเหตุผลแรกที่หลายๆสื่อชื่อดังออกมารายงานตรงกันก็จะทำให้ เคน ตามรอยอดีตแข้งดังที่เคยออกสร้างวีรกรรมคล้ายๆกัน 

ดิเอโก้ คอสต้า 

    ความบาดหมางระหว่าง คอสต้า กับ อันโตนิโอ คอนเต้ เกิดขึ้นสมัยที่ทั้งคู่เคยร่วมงานสมัยอยู่กับ เชลซี และอยู่ในชุดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในฤดูกาล 2016-17 

    สำหรับประเด็นบาดหมางนั้นเริ่มที่ คอนเต้ ส่งข้อความไปบอกกับอดีตหัวหอกทีมชาติสเปนว่าเขาไม่อยู่ในแผนการทำทีมของ “สิงห์บลูส์” แล้ว หลังจากทีมไปคว้าตัว อัลบาโร่ โมราต้า มาเสริมทัพด้วยค่าตัว 58 ล้านปอนด์ 

    แน่นอนว่ามันทำให้ คอสต้า หัวเสียอย่างหนักและออกมาโจมตี คอนเต้ ว่าเขาไม่มีความเป็นมนุษย์ และไม่เดินทางกลับมายังสโมสร ก่อนที่สุดท้ายทั้งคู่จะแยกทางกันไป โดยที่ คอสต้า ย้ายกลับไปเล่นให้ แอตเลติโก มาดริด ส่วน คอนเต้ ก็ถูก เชลซี ปลดออกจากตำแหน่ง 

ติโบต์ กูร์กตัวส์ 

    ยอดนายทวารทีมาชติเบลเยียมเคยสร้างผลงานสุดยอดไว้กับ เชลซี ในช่วงระหว่างปี 2014-18 มีส่วนสำคัญช่วยทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย จนทำให้เจ้าตัวตกเป็นเป้าหมายของ เรอัล มาดริด ที่ต้องการดึงตัวไปเฝ้าเสา

    จากเรื่องดังกล่าวนั้นทำให้ กูร์กตัวส์ ซึ่งในเวลานั้นเหลือสัญญากับ เชลซี อีกแค่ปีเดียว แสดงความต้องการที่จะย้ายไปเฝ้าเสาในถิ่น ซานติอาโก เบร์นาเบว โดยถึงขั้นไม่ยอมกลับมารายงานตัวฝึกซ้อมกับต้นสังกัดหลังจบศึกฟุตบอลโลก 2018 ขณะที่ คริสตอฟ อองโรเตย์ นายหน้าคู่ใจของนักเตะก็กดดันให้ “สิงโตน้ำเงินคราม” ยอมปล่อยมือกาวชาวเบลเยียมไปอยู่กับ “ราชันชุดขาว”

    ก่อนที่สุดท้าย เชลซี จะยอมปล่อยตัวนักเตะออกไปในช่วงท้ายของตลาดซัมเมอร์ 2018 ด้วยค่าตัว 35 ล้านปอนด์ ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นการปิดฉากที่ไม่สวยงาม โดยเขาจากไปพร้อมกับเสียงสาปส่งจากแฟนบอลบางกลุ่ม 

คาร์ลอส เตเวซ 

    กองหน้าชาวอาร์เจนไตน์เคยเป็นหนึ่งในยอดดาวยิงหัวแถวของศึกพรีเมียร์ลีกสมัยเล่นให้กับ แมนฯ ซิตี้ มีส่วยช่วยทีมคว้าแแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ 1 สมัย ซึ่งแน่นอนจากผลงานของเขานั้นทำให้กลายเป้นขวัญใจของแฟนบอลได้อย่างรวดเร็ว 

    อย่างไรก็ตามเจ้าตัวเริ่มประพฤติตัวไม่เหมาะสมไม่ยอมถูกเปลี่ยนตัวลงสนามในเกมที่ “เรือใบสีฟ้า” พบ บาเยิร์น มิวนิค ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อเดือนกันยายน 2011 จนทำให้ โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือในเวลานั้นหัวเสียอย่างหนัก ก่อนที่จะถูกสโมสรสั่งลงโทษห้ามลงเล่นถึง 2 สัปดาห์ จึงทำให้ เตเวซ เดินทางกลับไปยังบ้านเกิด

    จากเรื่องนี้ทำให้หลายฝ่ายคาดว่าเขาหมดอนาคตกับทีมเรียบร้อย และเตรียมถูกขายทอดตลาดในเดือนมกราคม แต่สุดท้ายเขากลับมาที่สโมสรและขอโทษกับทุกอย่างที่เกิดขึ้น และกลายเป็นส่วนสำคัญพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้เป็นครั้งแรก 

จอร์จ เบสต์ 

    หากจะพูดถึงหนึ่งแข้งระดับตำนานนั้นชื่อของ จอร์จ เบสต์ คือหนึ่งในขวัญใจตลอดกาลของสากวก “เร้ด อาร์มี่” อย่างแน่นอน แต่หากพูดถึงเรื่องนอกสนามนั้นวีกรรมของอดีตซุปตาร์รายนี้ก็ขึ้นชื่อลือชาไม่แพ้กัน 

    เบสต์ ขึ้นชื่อเรื่องการเป็นนักดื่มเที่ยวราตรีอยู่แล้ว และมันก็ส่งผลกระทบมาถึงผลงานในสนามจนได้ หลังจากไม่เดินทางมาฝึกซ้อมด้วยเหตุผลส่วนตัว ซึ่งเป็นแบบนี้อยู่บ่อยครั้ง จนทำให้ทอมมี่ ด็อคเฮอร์ตี้ กุนซือในเวลานั้นสั่งลงโทษปรับเงิน ก่อนจะตัดชื่อไม่อยู่ในแปนการทำทีม และต้องย้ายออกไปในที่สุด

ดิมิทาร์ เบอบาตอฟ 

    ไม่มีใครสงสัยในเรื่องฝีเท้าของอดีตกองหน้าอารมณ์ศิลปินรายนี้ในสมัยโด่งดังเป็นพลุแตกกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ซึ่งทำให้ในช่วงเวลานั้นเขาเป็นแข้งเนื้อหอมสุดๆ จนทำให้เขาออกลูกงอแงเพื่อให้ได้ย้ายไปอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงซัมเมอร์ 2008 

    เบอร์บาตอฟ ปฏิเสธที่จะลงเล่นให้ “ไก่เดือยทอง” ในเกมพบ ซันเดอร์แลนด์ จนทำให้เขาถูกสโมสรสั่งลงโทษปรับเงิน แต่เขาก็ยังมีจุดยืนชัดเจนไม่ลงเล่นในเกมนัดถัดไปกับ เชลซี ก่อนที่สุดท้ายความพยายามย้ายทีมของเจ้าตัวก็ประสบผลสำเร็จได้ย้ายไปเล่นในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ด้วยค่าตัว 30.7 ล้านปอนด์ ในช่วงเดดไลน์วันสุดท้าย