Football Sponsored

รวมแข้งชั้นยอด!เผยทีมฟุตบอลมูลค่ารวมสูงสุดในอลป.2020 – สยามกีฬา

Football Sponsored
Football Sponsored

จากการรวบรวมมูลค่าโดยรวมของแต่ละทีมที่ลงเล่นในศึกฟุตบอลชายของ โอลิมปิก เกมส์ 2020 นั้น มันก็พบว่า สเปน คือทีมที่มีมูลค่าโดยรวมสูงเป็นอันดับ 1 จากการที่ขุมกำลังของพวกเขาเต็มไปด้วยนักเตะชั้นยอด ตามมาด้วย บราซิล

    ทีมฟุตบอลชายทีมชาติสเปน ชุดทำศึก โอลิมปิกเกมส์ 2020 เป็นทีมที่มีมูลค่าโดยรวมสูงสุด ที่จำนวนรวม 487 ล้านปอนด์ (ประมาณ 19,480 ล้านบาท) จากการประเมินมูลค่าของ ทรานเฟอร์สมาร์เก็ต เว็บไซต์แนวประเมินมูลค่าชื่อดังในวงการลูกหนัง

    สำหรับการประเมินมูลค่าของ ทรานเฟอร์สมาร์เก็ต นั้น วัดจากหลายปัจจัย อย่างเช่นฟอร์มการเล่นของนักเตะในช่วงเวลานั้นๆ, ชื่อเสียงของพวกเขา, สัญญาที่มีอยู่กับสโมสร, สถานภาพของต้นสังกัดของนักเตะคนนั้นๆ เป็นต้น ซึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้ สเปน เป็นอันดับ 1 ในชาร์ตนี้ เป็นเพราะว่าจากบรรดานักเตะที่มีมูลค่าสูงสุด 15 คนแรกของศึก โอลิมปิก เกมส์ 2020 นั้น มันมีถึง 9 คนที่เล่นให้กับทัพ “ลา โรฆา” อย่างเช่น เปดรี้ ที่มีมูลค่า 72 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,880 ล้านบาท), มิเกล โอยาร์ซาบัล ซึ่งถูกประเมินมูลค่าเอาไว้ที่ 63 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,520 ล้านบาท) และ ดานี่ โอลโม่ กับ เปา ตอร์เรส ที่มีมูลค่า 45 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,800 ล้านบาท) เท่ากัน เป็นต้น

    ทั้งนี้ อันดับ 2 ในชาร์ตดังกล่าวได้แก่ บราซิล ที่ขุมกำลังของพวกเขามีมูลค่าโดยรวม 315 ล้านปอนด์ (ประมาณ 12,600 ล้านบาท) หลังจากทัพ “เซเลเซา” ชุดนี้นำมาโดย ริชาร์ลิซอน กองหน้าจาก เอฟเวอร์ตัน ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 49.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,980 ล้านบาท) ขณะที่ เยอรมนี ตามมาเป็นอันดับ 3 ที่มูลค่า 111 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4,440 ล้านบาท)

    ทีมฟุตบอลชายที่ขุมกำลังโดยรวมมีมูลค่าสูงสุด 10 อันดับแรกของศึก โอลิมปิก เกมส์ 2020
    1. สเปน 487 ล้านปอนด์
    2. บราซิล 315 ล้านปอนด์
    3. เยอรมนี 111 ล้านปอนด์
    4. อาร์เจนตินา 110 ล้านปอนด์
    5. ฝรั่งเศส 105 ล้านปอนด์
    6. ไอวอรี่ โคสต์ 103 ล้านปอนด์
    7. เม็กซิโก 81 ล้านปอนด์
    8. ญี่ปุ่น 67 ล้านปอนด์
    9. เกาหลีใต้ 25 ล้านปอนด์
    10. อียิปต์ 16 ล้านปอนด์

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.