ส่องประวัติ ค่าเหนื่อย “คริสเตียน อีริคเซ่น” กองกลางทีมชาติเดนมาร์ก – SpringNews
13 มิ.ย. 2564 เวลา 9:56 น.
เปิดประวัติและค่าเหนื่อยต่อสัปดาห์ของ “คริสเตียน อีริคเซ่น” กองกลางทีมชาติเดนมาร์ก ที่วูบหมดสติระหว่างการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 ในเกมที่พบกับทีมชาติฟินแลนด์
คริสเตียน อีริคเซ่น (Christian Eriksen) เกิดเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2535 ณ เมืองมิดเดิลฟาร์ต ปัจจุบันอายุ 29 ปี เล่นให้กับสโมสรฟุตบอลอินแตร์นาซีโอนาเลมีลาโน หรือที่รู้จักกันในนาม อินเตอร์มิลาน
โดย คริสเตียน อีริคเซ่น เข้าวงการฟุตบอลมาตั้งแต่เล็ก ด้วยการที่บิดา โทมัส อีริคเซ่น พาเข้าสโมสรเยาวชนมิดเดิลฟาร์ต และในปี 2545 ก็ย้ายไปเข้าสโมสรเยาวชนโอเดินเซอร์ และเมื่อคริสเตียน อิรีคเซ่น อายุได้ 12 ปี ติดเยาวชนทีมชาติเดนมาร์กในรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ทำให้สโมสรอายักซ์เยาวชนดึงตัวไปเข้าทีมในปีถัดไป
หลังจากที่ทีมอายักซ์เห็นแววคริสเตียน อีริคเซ่น ตั้งแต่ยังเด็ก จนในปี 2553 ก็ได้เลื่อนมาเตะในลีกอาชีพของทีมอายักซ์ด้วยวัยเพียง 15 ปีเท่านั้น และยังติดเป็นทีมชาติตัวจริงของเดนมาร์กอีกด้วย ซึ่งเป็นทีมชาติที่มีอายุน้อยที่สุดในปีนั้น
คริสเตียน อีริคเซ่น เล่นให้กับทีมอายักซ์ได้เพียง 3 ปีเท่านั้น ก็ถูกทอตนัมฮอตสเปอร์ซื้อตัวมาร่วมทีมด้วย และเล่นให้กับทอตนัมฮอตสเปอร์ยาวนานถึง 8 ปี ตั้งแต่ 2556-2563 แล้วย้ายสังกัดมาเข้าทีมอินเตอร์มิลานตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา
ฟุตบอลฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง
This website uses cookies.