Football Sponsored

“เฮงซัง” จัดหนัก “นิชิโนะ” คุยแต่เรื่องเงิน-ไร้ทีมงาน แนะเลือกโค้ชไทยรับงาน “ช้างศึก” – ผู้จัดการออนไลน์

Football Sponsored
Football Sponsored

เผยแพร่:   ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภายหลังจากทัพ “ช้างศึก” ทีชาติไทย พลาดท่าแพ้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1-3 ทำสถานการณ์การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย กลุ่มจี หมดลุ้นเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้ายแน่นอนแล้ว มีแค่ 9 คะแนนเท่าเดิม จากการลงสนาม 7 นัด รั้งอันดับ 3 ของกลุ่ม และเหลือโปรแกรมการแข่งขันด้วยการพบกับ มาเลเซีย อีกเพียงนัดเดียว ในวันอังคารที่ 15 มิถุนายน 2564 เวลา 23.45 น. สนามอัล มัคตูม ถ่ายทอดสดทางช่อง ไทยรัฐทีวี

โดยเฉพาะผลงานของ อากิระ นิชิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ที่ถูกวิจารณ์อย่างหนัก ซึ่ง “โค้ชเฮง” วิทยา เลาหกุล อดีตประธานพัฒนาเทคนิคของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ปัจจุบันเป็นประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิคของสโมสรฟุตบอลชลบุรี เอฟซี ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านช่อง “ฟุตบอล108” ทางยูทูบต่อความล้มเหลวของทัพ “ช้างศึก” กับกุนซือชาวญี่ปุ่นว่า

“นิชิโนะ มีประสบการณ์เยอะ ตามดูนักฟุตบอลทุกสนาม แต่ผมไม่เข้าใจทำไมต้องเอานักบอลไปเยอะแยะ (42 คน) มันต้องรู้ว่าต้องการนักบอลแบบไหน จะเล่นระบบ 4-3-3 หรือ 4-2-3-1 ผู้เล่นคนไหนเหมาะที่สุด เจาต้องทำงานละเอียดอยู่แล้ว แต่ผมเห็นตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว เขาไม่เอาผู้ช่วยมาคงไปไม่รอด”

“ผมนั่งฟังตอนสัมภาษณ์ ผมกระทุ้งนายกฯ เลยว่าไม่เอาดีกว่า เขาไม่เอาผู้ช่วยมาแล้วต่อรองเงินเดือนเยอะเกินไป ผมอยากเห็นผลงานก่อน แน่นอนว่าผลงานในอดีตมีอยู่แล้ว แต่ผมเห็นโค้ชต่างชาติเดินเข้ามาเยอะ อยากแสดงความสามารถก่อน อันนี้ผมชอบ ไม่ใช่ว่าต้องต่อรองเรื่องเงินอย่างเดียว จริงๆ นายกฯ ก็ไม่อยากเอาอยู่แล้ว เขาพูดเรื่องเงินอย่างเดียว”

ต่อคำถามว่าควรให้โอกาส นิชิโนะ คุมทีมชาติไทยต่อไปหรือไม่ “โค้ชเฮง” ระบุว่า “เราไม่มีข้อมูลประเมินเขา เราคงตัดสินใจลำบาก เราไม่ละเอียดตรงนี้” และหากให้โอกาสทำงานต่อ “มันต้องมีกลุ่มสตาฟฟ์ที่ละเอียดกว่านี้”

ขณะเดียวกัน “โค้ชเฮง” ยังกล่าวถึงการให้โอกาสโค้ชไทยรับงานคุมทัพ “ช้างศึก” ด้วยว่า “อยากเห็นโค้ชคนไทยเข้าทำงานเงินเดือนสูง มีสัญญา 4 ปี ทำงานแบบต่อเนื่อง โดยมี การ์เลส คอยควบคุมแนวทางการเล่น สไตล์แบบไหน การเล่นเป็นอย่างไร มันเป็นสิ่งที่เราประเมินได้ว่าเหมาะสม ไม่ใช่ว่าต่างคนต่างทำ แน่นอนว่าผมเห็นโค้ชหลายคนจบโปรไลเซนต์มาหลายคนมีความสามารถ และต้องมีคนคอยประเมิน ถ้าไร้คนประเมินมันก็อีหรอบเดิม”

กับเรื่องความหวังไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าน อดีตกุนซือทีมชาติไทย เผยว่า “ถ้าเราไม่พร้อมเรื่องศูนย์ฝึก ทุกวันนี้ผมยังไม่เห็นเรื่องลีกเยาวชน อาจเป็นด้วยสถานการณ์โควิดด้วยก็ได้ แต่สมัยผมเน้นลีกเยาวชน อบรมโค้ช แต่ถ้าเป้าหมายฟุตบอลโลก ก็กลับไปนอนฝันเหมือนเดิม ถ้าเราไม่เอาจริงเอาจังกับฟุตบอลระดับสโมสเอเชีย หรือเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก เพื่อเข้าไปรอบลึกๆ ไปเพื่อได้แค่เข้าร่วมหรือตกรอบแรก รอบสอง ความฝันไปฟุตบอลโลกมันลำบาก”

ต่อคำถามเรื่องการพัฒนาของฟุตบอลเวียดนาม ที่ปัจจุบันนำเป็นจ่าฝูงกลุ่ม จี ศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย “โค้ชเฮง” กล่าวว่า “ผมเป็นคนประเมินเวียดนาม หรืออะคาเดมี่ที่เวียดนาม เขาอยู่ระดับโลก เทียบกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ หรือ บาเยิร์น มิวนิค หรือ แอสไพรส์ ที่กาตาร์ สมบูรณ์แบบมาก ซึ่งบ้านเราไม่มีตรงนี้เลย ถ้าเราไม่วางรากฐานตรงนี้ เราตามเขาลำบาก”


Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.