ลึกไม่ลับซินแสดีพาบีจีปทุมฯแชมป์ไทยลีก – สยามกีฬา

หากแฟนบอลยังคงจำกันได้ดี อดีต นั้น ทีม บีจีปทุม ยูไนเต็ด หรือ ทีม บางกอกกล๊าส เอฟซี เดิม ที่ทำทีมอยู่ในยุทธจักรลูกหนังไทยมากว่าทศวรรษ จากก้าวแรกเมื่อปี พ.ศ. 2549 ที่ เข้าเป็นสมาชิกของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ จากถ้วยพระราชทาน ง จนไต่เต้าถึง ถ้วย ข ได้สำเร็จ

    กระทั่งนำสิทธิของทีม ธ.กรุงไทย ที่ไม่สามารถทำทีมฟุตบอลในรูปแบบของบริษัทนิติบุคคล ได้เนื่องจากผิดระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทย บางกอกกล๊าส จึงนำสิทธิมาบริหารต่อและส่งเข้าร่วมศึกไทยลีกครั้งที่ 13 เมื่อปี พ.ศ. 2552 เป็นต้นมา

    กระทั่งมีการสร้างรังเหย้าของตัวเองขึ้นมาในโรงงานบางกอกกล๊าส ริมถนนรังสิตนครนายก บริเวณ คลอง 3 ใช้ชื่อว่า ลีโอ สเตเดี้ยม ที่มีการปรับปรุง มาตามลำดับจนมีสภาพเช่นปัจจุบัน 

    และไทยลีก ฤดูกาล 2020 ที่ผ่านมา หรือไทยลีกครั้งที่ 24 นั้น บางกอกกล๊าส ที่เปลี่ยนชื่อทีมใหม่เป็น บีจีปทุม ยูไนเต็ด ก็ผงาดคว้าแชมป์ไทยลีก สมัยแรกมาคราองได้สำเร็จ หลังต้องรอมานานถึง 12 ปีนับจากเล่นไทยลีก มาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2552 เป็นต้นมา

  

    หากยังจำกันได้ วันวาน สมัย ยังเป็นชื่อทีม บางกอกกล๊าส เอฟซี นั้น โลโก้ ของทีม จะเน้นโทนสีเหลือง ที่ใช้ยาวนาน ระหว่าง ปี พ.ศ. 2549 ปีแรก ที่ เข้าร่วมเป็นสมาชิกสโมสร ของสมาคมกีฬาฟุตบอล โดยใช้จนถึง ปี พ.ศ. 2560 

    กระทั่ง ปี พ.ศ. 2561 ได้เปลี่ยนโลโก้ มาใช้สีน้ำเงิน ซึ่งมีรายงานมาว่า เป็นเพราะประธานสโมสร อย่าง “บิ๊กปี๊ป” คุณปวิณ ภิรมย์ภักดี ได้รับคำแนะนำ จาก ซินแส ประจำตัว ที่ให้ความเคารพนับถือให้เปลี่ยน รูปแบบโลโก้ใหม่ โดยเปลี่ยนจากสีเหลืองมาเป็นสีน้ำเงิน เป็นสีหลักในโลโก้ของสโมสร ก่อนที่ตั้งแต่ฤดูกาล 2562 เป็นต้นมาจะเปลี่ยนแปลงโลโก้อีกครั้ง ใช้สัญลักษณ์ รูปหน้ากระต่ายสีขาว อยู่ในโลโก้ สีน้ำเงิน พร้อมเปลี่ยนชื่อทีม จาก บีจี เอฟซี เป็น บีจีปทุม ยูไนเต็ด  

    ซึ่งรวมไปถึงการใช้สีสนามลีโอ สเตเดี้ยม ใหม่ จากเดิม ที่ เคยใช้สีเขียว เปลี่ยนมาเป็นสีน้ำเงิน เช่นเดียวกับที่บริษัท บางกอกกล๊าส ใช้อยู่ด้วย

    นั่นจึงเป็นอีกที่มาที่หลังมีการปรับเปลี่ยนโลโก้ จากสีเขียว มาเป็นน้ำเงิน แล้วนอกเหนือจากการทุ่มเม็ดเงินมหาศาล ในการคว้านักเตะฝีเท้าดีไปอยู่กับทีม แล้วทำให้ ทีมคว้าแชมป์ไทยลีก สมัยแรก มาครองได้สำเร็จ  

    ของพรรค์นี้ไม่ใช่อย่าลบหลู่