Football Sponsored

เผยคำพูด เสี่ยหมี กับ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ฉลอง เชลซี คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก – 90min

Football Sponsored
Football Sponsored

โรมัน อับราโมวิช อยู่เป็นสักขีพยานฉลองแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กับบรรดาแข้ง สโมสรฟุตบอลเชลซี เป็นสมัยที่ 2 ในประวัติศาสตร์หลัง สิงห์บลู เฉือนเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 จากประตูโทนของ ไค ฮาแวร์ตซ์

เสี่ยหมี เดินทางสู่ ปอร์โต้ ใน โปรตุเกส เพื่อชมเกมในสนาม เอสตาดิโอ โด ดราเกา ก่อนจะได้เฮเมื่อสิ้นเสียงนกหวีดยาวโดยเขาได้เฝ้ามองลูกทีมฉลองแชมป์จากในอุโมงค์สู่ห้องแต่งตัว

รายงานจาก ฟุตบอลลอนดอน ระบุว่าเขารอลูกทีมที่อุโมงค์เพื่อแสดงความยินดีต่อนักเตะและสต๊าฟฟ์โค้ชทุกรายก่อนที่พวกเขาจะเข้าไปในห้องแต่งตัว โดยมี เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า กัปตันทีมที่เขาใช้เวลาอยู่ด้วยนานที่สุด

“มันเป็นของคุณ ผมไม่รู้ว่าโทรฟีแชมป์อยู่ที่ไหนแต่เดี๋ยวผมจะเอามาให้คุณ” อัซปิลิกวยต้า กล่าวกับ เสี่ยหมี หลังทั้งคู่โผเข้ากอดแสดงความยินดีก่อนที่กัปตัน สิงห์บลู จะออกไปตามหาถ้วยแชมป์ชั่วครู่ แม้จะกลับเข้ามาด้วยมือเปล่าแต่ปราการหลัง สแปนิช ก็ถาม อับราโมวิช ว่า “คุณมีความสุขไหม”

“ใช่ แน่นอน ผมมีความสุขเป็นอย่างมาก” อับราโมวิช กล่าวตอบ

นอกจากนี้รายงานดังกล่าวยังชี้ว่านับเป็นครั้งแรกที่ โธมัส ทูเคิล ได้พบกับ อับราโมวิช หลังจากที่เขารับตำแหน่งกุนซือ สิงโตน้ำเงินคราม โดยนายใหญ่ชาว เยอรมัน ยอมรับว่าแม้เพิ่งจะได้คุยสั้นๆ กับเจ้าของสโมสรแต่เขามั่นใจว่าจะได้นั่งหารือร่วมกันในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

“ผมได้พูดคุยกับเจ้าของสโมสรในสนาม ผมคิดว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการพบกันครั้งแรก หรืออาจจะเป็นเวลาที่ย่ำแย่ก็ได้เพราะจากนี้ไปมันจะแย่ลง เราจะพูดคุยกันเพิ่มเติมมากขึ้นหลังจากนี้” ทูเคิล เผยกับสื่อ

“ผมยืนยันกับเขาว่าจะยังคงความกระหายต่อไป ผมอยากคว้าแชมป์ลำดับถัดไป ผมยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมที่ทะเยอทะยานและกลุ่มนักเตะที่เชื่อมั่นในตัวผม และแรงผลักดันกับฟุตบอลในตอนนี้นั้นสมบูรณ์แบบ”

“ผมต้องการที่จะพาทีมเก็บชัยชนะให้มากขึ้น ผลักดันแข้งชุดนี้ให้ถึงขีดจำกัดตั้งแต่วันแรกของฤดูกาลถัดไป เรายังต้องทำงานเพื่อปิดจุดอ่อน”

สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.