Football Sponsored

ไม่ใช่ครั้งแรก! เมืองทองส่งนักเตะชุบตัวแอตมาดริด – Goal.com

Football Sponsored
Football Sponsored

พ่อบ้านกิเลน เผยเตรียมส่งนักเตะไปชุบตัวที่ แอตมาดริด อีกครั้ง เบื้องต้นเป็นเวลา 3 เดือนหลังสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น

รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้อำนวยการสโมสรเอสซีจี เมืองทองฯ เปิดเผยว่าเตรียมส่งผู้เล่นของทีมไปชุบตัวที่ประเทศสเปน กับ แอตเลติโก มาดริด อีกครั้ง หลังสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น

กิเลนผยอง เป็นพันธมิตรกับทีมตราหมี โดยก่อนหน้านี้เคยส่งเยาวชนหลายรายไปชุบตัวมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล , พิชา อุทรา และ สุริยา สิงห์มุ้ย รวมถึง อดีตกองหน้าของทีมอย่าง ธีรศิลป์ แดงดา ก็เคยไปเดินทางไปทดสอบฝีเท้า กระทั่งล่าสุดเตรียมกลับมาสนับสนุนโครงการนี้อีกครั้ง

“บิ๊กเป้” รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผอ.สโมสร เอสซีจีเมืองทอง ได้ออกมาเปิดเผยว่า สโมสร เอสซีจีเมืองทอง เตรียมส่งนักเตะของสโมสร ที่เล่นชุดใหญ่ และในระดับเยาวชน อย่างน้อย 7คน เดินทางไปฝึกซ้อม ฟุตบอลขั้นสูงสุดกับทีมสโมสร แอตเลติโก มาดริด แชมป์ลาลีกาของสเปน สดๆร้อนๆเพื่อเป็นสร้างสมประสบการณ์ให้กับนักเตะ ก่อนกลับมาช่วยสโมสร

Editor Picks

  • โปรแกรมถ่ายทอดสดฟุตบอล – ดูบอลสดคืนนี้ (พรีเมียร์ลีก, ไทยลีก, ลาลีกา, บุนเดสลีกา, แชมเปี้ยนส์ลีก, ฯลฯ)
  • จ้าวลูกหนังผู้ดี! ทำเนียบแชมป์ลีกสูงสุดอังกฤษ (1888-2021)
  • ดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก 2020-21
  • ยอดดาวยิง! ใครคือผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของพรีเมียร์ลีก?

ตอนนี้ เราได้ทำการทดสอบ และดูว่า นักเตะของเรามีใครเหมาะสมที่จะเอาไปฝึกซ้อมที่ แอตเลติโก มาดริด ได้บ้างโดยแฉพาะ 3ตำแหน่งหลักคือ กองหน้า กองกลาง และกองหลัง เราจะเอาไปประมาณ 6-7คน แล้วแต่ความเหมาะสมว่า แต่ละคนใครมีความพร้อมอย่างไร

จริงๆแล้ว เอสซีจีเมืองทอง กับ แอตเลติโก มาดริด เรามีความสัมพันธ์ในด้านลูกหนัง กันมายาวนานที่ผ่านมา เราก็ได้ส่งนักเตะและโค้ชไปฝึกและเรียนที่นั่นที่นั่น และหลายคนกลับมาก็มีอนาคตที่ดี มาครั้งนี้เราก็จะส่งไปอีก เพื่อให้นักเตะของเรามีประสบการณ์ที่ดี นำมาช่วยกระดับสโมสรของเราในวันข้างหน้า

ขณะที่ในส่วนของการเดินทางนั้น ตอนนี้รอเพียงแค่ โควิด 19 เบาบางลงเท่านั้น แล้วเราจะไปทันที โดยจะใช้เวลาอยู่ที่นั่นอย่างน้อย 3 เดือน

สำหรับ แอตเลติโก มาดริด เพิ่งกลับมาคว้าแชมป์ลาลีกา สเปน เป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี เมื่อฤดูกาลที่เพิ่งจบลง

Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.