‘บีร็อด’ ปลื้มลูกทีมหลังดับ เชลซี พร้อมยกแชมป์ให้ บิ้กต๊อบ-แฟนบอล – SMMSPORT

กุนซือของ จิ้งจอกสยาม ได้ออกมาเปิดเผยว่า ชัยชนะเหนือ เชลซี ใน เอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศ พร้อมถ้วยแชมป์ในเกมดังกล่าว ขอมอบให้แก่ ประธานสโมสร และแฟนบอล จิ้งจอกสยาม ทุกคน

เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือของ “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ ได้ออกมาเปิดเผยความรู้สึก หลังจากพึ่งจะพาทีมเอาชนะ เชลซี ในศึก เอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศ มาสดๆ ร้อนๆ เมื่อคืนที่ผ่านมา (เสาร์ที่ 15 พฤษภาคม 2564) โดยที่ กุนซือรายนี้ได้ออกมายกย่องลูกทีมทุกคนที่ใจสู้ในเกมนี้ และ อุทิศ แชมป์นี้ให้แก่ “บิ้กต๊อบ” อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรชาวไทย และแฟนๆ “จิ้งจอกสยาม” ทุกคน

โดยเจ้านายใหญ่ของ “จิ้งจอกสยาม” ได้ออกมาเปิดเผยว่า “มันเป็นความรู้สึกที่สุดยอด ผมไม่รู้เลยก่อนที่ผมจะมา เลสเตอร์ ว่าพวกเขาไม่เคยคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ พวกเขาแพ้ในรอบชิงมา 4 ครั้งก่อนหน้านี้ ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่เพื่อมอบให้กับเจ้าของ และแฟนๆ มันพิเศษมาก มันน่าภูมิใจมาก บอร์ด นักเตะ ทีมงาน แฟนบอล วันที่น่าอัศจรรย์สำหรับเมือง เป็นเรื่องน่าภูมิใจกับทุกคน”

“ประตูของ ยูริ ตีเลมันส์ มันเหมือนกับประตูชัยแบบโบราณของ เอฟเอ คัพ แต่ยังมีลูกเซฟของ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ด้วย นั่นคือช่วงเวลาพิเศษที่คุณต้องการในเกม โดยรวมแล้วเราเป็นทีมที่ดีกว่า มีความดุดัน บีบกดดันได้ดี เราอันตรายเสมอ เชลซี เป็นทีมที่น่าเหลือเชื่อ นั่นคือเหตุผลที่พวกเขาเข้าไปถึงรอบชิง แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่ผมติดว่าเราสมควรที่จะได้รับมัน”

“ความสำเร็จของทีม และสโมสรนี้ก็คือการมาอยู่ในตำแหน่งแบบนี้ และการแข่งขัน สโมสรที่ใหญ่กว่าได้รับการคาดหมายว่าจะชนะ แต่ความสำเร็จของเราคือการแข่งขัน และถ้าเราสามารถทำผลงานได้แบบในวันนี้ เราก็จะเดินหน้า และเอาชนะได้ วันนี้มันสำหรับทุกคนที่มีส่วนร่วมกับ เลสเตอร์“

สำหรับ ประตูของ ยูริ ตีเลมันส์ ในช่วงนาทีที่ 63 เป็นประตูเดียวของเกมนี้ และ ส่งผลให้ เลสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์ ฟุตบอล เอฟเอ คัพ ประจำฤดูกาลนี้ไปได้ในที่สุด อีกทั้งยังเป็นสมัยแรกหลังจากที่สโมสรก่อตั้งมา 137 ปี

Tags: footballfootball clubกีฬาถ่ายทอดผลการแข่งขันฟุตบอลสดสโมสรฟุตบอลแข่งขัน

4 ปี ago

ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง