Football Sponsored

เบอร์ทรานด์ เผย ต้องการความท้าทายใหม่ทำอำลา นักบุญ – SMMSPORT

Football Sponsored
Football Sponsored

ไรอัน เบอร์ทรานด์ เตรียมย้ายออกจากทีม เซาธ์แฮมป์ตัน ในช่วงซัมเมอร์นี้ หลังจากไม่ต่อสัญญาที่จะสิ้นสุดในช่วงเดือนมิถุนายนี้ออกไป ปิดฉากการค้าแข้งในถิ่น เซนต์ แมรี่ส์ ตลอด 7ปี พร้อมยอมรับ ต้องการหาความท้าทายใหม่ๆ

เซาธ์แฮมป์ตัน สโมสรในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประกาศยืนยันว่า ไรอัน เบอร์ทรานด์ แบ็กซ้ายวัย 31 ปี เตรียมอำลาถิ่น เซนต์ แมรี่ส์ สเตเดี้ยม หลังจบฤดูกาลนี้ เนื่องจากไม่มีการต่อสัญญาที่จะหมดลงในช่วงกลางปี ส่งผลให้นักเตะสามารถย้ายทีมได้แบบฟรีๆ

เบอร์ทรานด์ ที่ลงเล่นไปแล้วทั้งสิ้น 246 นัดให้ นักบุญ ทำได้ 8 ประตู นับตั้งแต่ย้ายมาจาก เชลซี เบื้องต้นด้วยสัญญายืมตัวในปี 2014 ก่อนย้ายขาดในปีต่อมา ยอมรับว่า ต้องการไปเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ จึงไม่ต่อสัญญาออกไป 

“หลังจากหลายเดือนของการตัดสินใจอย่างหนัก สุดท้าย ผมได้ตัดสินใจออกจากสโมสรฟุตบอลเซาแธมป์ตัน นี่เป็นการตัดสินใจที่ยากสำหรับผม แต่ถึงเวลาแล้วที่จะต้องแสวงหาความท้าทายใหม่และค้นหาบ้านหลังใหม่ ที่ช่วยให้ฉันมีอิสระในการเล่น และเพิ่มผลงานให้กับทีมได้มากที่สุด สิ่งนี้เพิ่งได้รับการพิจารณาในช่วง 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา ส่วนข่าวที่บอกว่าได้ ปฏิเสธข้อเสนอก่อนหน้านี้ไม่เป็นความจริง แต่อย่างใด ” เบอร์ทรานด์ กล่าว

สำหรับแนวรับที่ลงเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษ 19 นัด ทำได้ 1 ประตู ตกเป็นข่าวได้รับความสนใจจากเพื่อนร่วมลีก อย่าง อาร์เซน่อล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รวมถึงสโมสรในลีกต่างแดนอย่าง เอซี มิลาน และ โมนาโก ที่ต้องการเสริมทีมในช่วงซัมเมอร์นี้  

ขณะที่ ผลงานในลีกฤดูกาลนี้ ลงสนามให้ เซาธ์แฮมป์ตัน ไป 32 นัดรวมทุกรายการ โดยต้นสังกัดที่รั้งอันดับ 14 มี 40 คะแนน เหลือเกมอีก 3 นัดในช่วงที่เหลือของฤดูกาล เปิดบ้านพบกับ ฟูแล่ม และ ลีดส์ ยูไนเต็ด วันที่ 15 และ 18 พฤษภาคม ตามลำดับ ก่อนจะบุกไปเยือน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในนัดปิดซีซั่น วันที่ 23 พฤษภาคมนี้  

  • เดอะค็อปเชื่อแข้งรายนี้ดีสุดในสนามเกมหงส์ชนะนักบุญ
  • ‘หงส์’ เฝ้ารังเชือด ‘นักบุญ’ 2-0 ตามท็อปโฟร์ 6 แต้ม
  • ฮาเซ่นฮึทเทิ่ล โวยแหลกเชิ้ตดำหลังนักบุญ10คนเกือบชนะเลสเตอร์
Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.