Football Sponsored

คล็อปป์ลั่นไม่เสียใจจนร้องไห้หากลิเวอร์พูลแห้วตั๋วชปล. – สยามกีฬา

Football Sponsored
Football Sponsored

เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล ประกาศชัด ต่อให้ทีมของตนอดได้สิทธิ์เล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นหน้า “หงส์แดง” ก็จะไม่มานั่งร้องห่มร้องไห้แน่นอน พร้อมบอกว่า ลิเวอร์พูล ยังไม่หมดหวังที่จะได้ตั๋วเล่นศึกชิงถ้วยบิ๊กเอียร์ด้วย

    เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ยอดสโมสรแห่งวงการ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวว่าทีมของตนจะไม่มานั่งเสียใจจนถึงขั้นร้องไห้เหมือนเด็กที่ไม่ได้ลูกอมแต่อย่างใด ต่อให้จะอดได้สิทธิ์เล่นศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้าก็ตาม

    ก่อนลงเล่นโปรแกรมในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ลิเวอร์พูล อยู่ที่ 7 ของตารางคะแนน ด้วยผลงาน 54 แต้มจากการลงเล่น 33 นัด ตามหลัง เชลซี ทีมในอันดับ 4 อยู่ 7 แต้ม โดยที่ทัพ “หงส์แดง” ลงเล่นน้อยกว่าอยู่ 1 เกม ซึ่งมันก็ทำให้บางคนมองว่าในฤดูกาลหน้า ลิเวอร์พูล อาจจะอดได้สิทธิ์เล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ทั้งที่ช่วงไม่กี่ฤดูกาลที่ผ่านมาพวกเขาทำผลงานได้ยอดเยี่ยมจนถึงขั้นเคยได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก และได้สัมผัสกับถ้วยบิ๊กเอียร์อย่างละ 1 ครั้ง

    คล็อปป์ เผยว่า “เราไม่ใช่เด็กที่อยู่ในร้ายขายลูกอมที่ไม่ได้ลูกอมตามที่ต้องการ แน่นอนว่าเราต้องรับผิดชอบกับสถานการณ์ที่เราเจออยู่ในตอนนี้ แต่จะไม่มีใครที่มานอนดูเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้าผ่านทางจอโทรทัศน์แล้วมาร้องห่มร้องไห้ถ้าเราไม่ได้ลงเล่นรายการนั้นหรอก”

    “ถ้าใครมีปัญหากับเรื่องนั้นผมก็หวังว่าผมจะรู้สึกตัวได้ว่ามันมีคนที่มีปัญหากับเรื่องนั้นจริงๆ และหวังว่าจะสามารถแก้ไขสถานการณ์ที่ว่าได้โดยเร็ว ผมค่อนข้างมั่นใจว่าผมจะสามารถรับรู้ได้อย่างรวดเร็ว (หมายถึงในกรณีที่คนมีปัญหากับการที่ทีมจะอดได้เล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก) ผมขอย้ำอีกครั้งว่าช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเราทำเรื่องดีๆ ขึ้นมาได้ เราทำอย่างนั้นได้จากการรวมพลังกัน และซีซั่นนี้เราก็สู้ด้วยกันเหมือนกัน เราจะแสดงให้เห็นถึงปฏิกิริยาจากผลงานในฤดูกาลนี้ร่วมกัน นั่นเป็นเรื่องที่ชัดเจนอยู่แล้ว”

    กุนซือชาวเยอรมันเชื่อด้วยว่าทีมของตนยังไม่ถึงขั้นหมดหวังที่จะได้เล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก เหมือนที่หลายคนพูดกัน “ตอนนี้เรายังมีโอกาสที่จะได้เล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก อยู่ และเราต้องมุ่งมั่นกับเรื่องนั้น บางคนคิดว่าเราไม่มีโอกาสแล้ว และบอกว่าเราควรจะมองข้ามฤดูกาลนี้ไปซะรวมถึงมองไปยังซีซํ่นหน้าจะดีกว่า ทั้งที่เรายังเหลือเกมให้เล่นอีก 5 นัดเนี่ยนะ ? มันฟังดูแปลกนิดๆ”

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร
Add friend ที่ @Siamsport
Football Sponsored
ฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมากที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2440 และฟุตบอลทีมชาติไทยได้ร่วมเป็นสมาชิกฟีฟ่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 นับว่าเป็นประเทศแรกของโซนเอเชียที่เป็นสมาชิกฟีฟ่า แต่เป็นทีมที่ในอดีตไม่ประสบความสำเร็จในระดับไหนเลย แต่ได้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2007 ในอดีตประเทศไทยไม่ค่อยสนับสนุนนักฟุตบอลอาชีพนัก นักเตะจึงนิยมไปค้าแข้งกับประเทศอื่นที่มีการสนับสนุนดีกว่า แต่หลังจากปี พ.ศ. 2552 ฟุตบอลอาชีพไทยเริ่มตื่นตัว เนื่องจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตั้งกฎข้อบังคับให้แต่ละสโมสรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แต่มีสโมสรองค์กร รัฐวิสาหกิจ ปรับตัวไม่ได้ จึงต้องมีการยุบทีมทิ้ง หรือขายทีมไป หลังจากไทยพรีเมียร์ลีก 2552 เริ่มขึ้น แฟนบอลเริ่มเข้ามาชมเกมส์ในสนามมากขึ้น เงินเดือนนักเตะสูงขึ้น การจัดการของแต่ละสโมสรดีขึ้น ลีกไทยค่อย ๆ พัฒนาเป็นระดับ ส่งผลทำให้นักฟุตบอลที่เคยไปค้าแข้งต่างแดนกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากค่าตอบแทนไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางเพราะว่าต้องใช้เวลาปรับตัว เนื่องจากยุคที่ลีกบ้านเรายังไม่เจริญนักฟุตบอลมีเวลาเตรียมทีมเยอะ แต่ปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีเวลาเพราะสโมสรเรียกเก็บตัวซ้อมเพื่อการแข่งขัน นักเตะจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถือว่าฟุตบอลของประเทศไทยพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 ปี แฟนบอลหันมาเชียร์ทีมในจังหวัดตัวเองมากขึ้น ทีมกระจายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดท้องถิ่นนิยม จึงเป็นที่มาที่แฟนบอลไทยเข้าไปชมเกมฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 มากขึ้นนั่นเอง

This website uses cookies.