เมื่อกล่าวถึงสโมสรแห่งนี้ต้องยอมรับว่าแฟนกีฬาที่มีลูกหนังอยู่ในดวงใจคงยากที่จะปฏิเสธได้ว่า นี่คือหนึ่งในตำนานที่สร้างความสุขและฝากผลงานให้กับแฟนคลับมาอย่างต่อเนื่อง
ด้วยพลังแห่งศรัทธาที่แฟนลูกหนังทั้งในอดีตและปัจจุบันมอบให้จากเดิมที่ใช้ชื่อว่า ‘สโมสรการท่าเรือแห่งประเทศไทย’ ในยุคก่อเกิดจากการเป็นสโมสรกีฬาฟุตบอลสมัครเล่นเมื่อปี 2510
วันนี้สิงห์เจ้าท่าได้เปลี่ยนผ่านมาสู่สโมสรชั้นนำของประเทศภายใต้นาม “การท่าเรือ เอฟซี” ภายใต้การกุมบังเหียนของ “นางฟ้าลูกหนัง” มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ
ต้องยอมรับว่าผลงานในไทยลีกเลกสองของ การท่าเรือ ไม่ค่อยจะหวือหวาดังฤดูกาลก่อนๆ ทั้งๆ ที่ความพร้อมไม่ว่าจะเป็นทรัพยากรบุคคลของกลุ่มผู้บริหาร ผู้ฝึกสอน และนักเตะรวมทั้งเงินทุนที่ถือได้ว่าหน้าตักหนาไม่แพ้สโมสรอื่นก็ตาม
และเหนือสิ่งอื่นใดเมื่อย้อนไปดูในมิติของความรักความศรัทธาและความเชื่อมั่นที่แฟนบอลมอบให้ผ่านการสำรวจความคิดเห็นของ KBU SPORT POLLโดยศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิตในมิติที่เกี่ยวข้องกับการเข้าร่วมการแข่งขันในศึกไทยลีก 2021-2022 นี้ด้วยแล้ว
แฟนลูกหนังต่างคาดหวังว่าสิงห์เจ้าท่าจะเป็นหนึ่งในทีมที่จะมีผลงานติดหนึ่งในสามของตารางคะแนนการแข่งขัน
อย่างไรก็ตาม ต่อกรณีความไม่คงเส้นคงวาของฟอร์มการเล่นที่ปรากฏให้เห็นอยู่บ่อยครั้งต้องยอมรับว่าปัญหาที่เกิดขึ้นกับทีมในห้วงเวลานี้จะเนื่องด้วยเหตุใดก็ตาม
แต่หากส่องไปที่ปัจจัยที่ผู้สันทัดกรณีได้ออกมาปันความคิด หรือแสดงทัศนะต่างๆออกมาอย่างต่อเนื่องจะเห็นได้ว่าทุกฝ่ายเทไปที่เรื่องของหัวหน้าผู้ฝึกสอนและตัวของนักเตะเป็นเรื่องหลัก
แน่นอนเมื่อผลของการแข่งขันที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมายย่อมและเป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ที่สะท้อนให้เห็นว่าหากปล่อยผ่านย่อมจะไม่เป็นผลดีต่อส่วนร่วมโดยเฉพาะศรัทธาของแฟนพันธุ์แท้อย่างแน่นอน
ดังนั้นคงจะถึงเวลาที่ผู้บริหารโดยเฉพาะมาดามแป้งคงจะต้องขบคิดและทำการบ้านหรือถอดบทเรียนเพื่อนำไปสู่การผ่าตัดหรือรีโนเวทให้สิงห์เจ้าท่ากลับมาผงาดเป็นสิงห์แห่งแดนคลองเตยพร้อมที่จะครองใจคอลูกหนังไทยให้ได้ดังเดิมสืบไป
เมื่อกล่าวถึงต้นตอแห่งความถดถอยถ้าจะมองไปที่เรื่องของหัวหน้าผู้ฝึกสอน ต้องยอมรับว่าในศึกไทยลีกฤดูกาลนี้ทีมคลองเตยมีการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าสตาฟฟ์โค้ชไปมากหน้าหลายตาพอสมควร
และที่น่าสนใจจะเห็นได้ว่าสโมสรแห่งนี้ผู้บริหารอาจจะนิยมชมชอบใช้ ‘ผลผลิตของไทย’ ก็ว่าได้ไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงกี่หนๆ ก็ไม่พ้นเมดอินไทยแลนด์อยู่ร่ำไป
แต่ไม่แน่จากนี้ไปหลังจากที่ผู้บริหารหลงใหลและลองผิดลองถูกกับโค้ชไทยมาอย่างยาวนาน เมื่อวิกฤติก่อให้เกิดผลกระทบ ไม่แน่ในเร็ววันนี้ทีมสิงห์เจ้าท่าอาจจะมีโค้ชนอกเข้ามากุมบังเหียนบ้างก็เป็นได้
เหตุที่ผู้เขียนกล่าวดังนี้เพราะล่าสุดมีกระแสที่น่าจะนำไปสู่ช่องทางแห่งการดำเนินการก็เป็นได้เมื่อสื่อเวียดนาม อย่าง baogiaothong.vn ได้กระจายข่าวว่า มาดามแป้ง ประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟซี สนใจจะดึงตัวโค้ชนอกนาม “ปาร์ค ฮัง ซอ” กุนซือยอดฝีมือจากแดนโสมที่ปัจจุบันรั้งตำแหน่งหัวหน้าโค้ชทีมดาวทอง ที่มีผลงานให้สร้างให้ทีมสกุลเหงียนผงาดยืนหนึ่งในอาเซียนอยู่ ณ ปัจจุบันนี้
จากกระแสดังกล่าวจะเป็นจริงหรือไม่คงต้องรอการยืนยันจากปากของนางฟ้าลูกหนังอีกครั้งหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามหากเป็นจริงดังว่านอกจากจะมีการเปลี่ยนแปลงในภาคส่วนของหัวหน้าโค้ชแล้วก็ตาม
แต่หนึ่งในมิติที่มาดามไม่ควรจะมองข้ามคือเหล่านักเตะลูกรัก จะมุ่งมั่นและทุ่มเทกับโค้ชนอกแค่ไหนเท่านั้นเอง
หรือจากการตัดสินใจเพื่อนำไปสู่การผลัดใบหันมาใช้โค้ชนอกดังที่เป็นข่าวหากมองในมิติของความจริงจังและจริงใจของประธานสโมสรสิงห์เจ้าท่านาม นวลพรรณ ล่ำซำ
ก็อาจจะสอดคล้องกับวลีที่ว่า “เชื่อแป้ง” ก็น่าสนใจไม่น้อยทีเดียว
ผศ.ดร.รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร
———————
กลับมาพลิกนรก ยิงแซงเอาชนะ นครราชสีมา มาสดา เอฟซี ไปได้อย่างเหลือเชื่อ 3-2
สำหรับขุนพลสิงห์เจ้าท่า ของ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ
ก็หวังว่าชัยชนะในครั้งนี้ จะเป็น “จุดเปลี่ยน” ให้ยอดทีมแห่งแพท สเตเดี้ยม
เดินหน้าต่อไปในทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ
บางทีการวนลูปกลับมาใช้บริการ “เซอร์เด็จ” จเด็จ มีลาภ มาทำหน้าที่กุนซือใหญ่อีกรอบ
อาจจะเป็นคำตอบสุดท้ายของคำว่า #เชื่อแป้ง ก็เป็นได้ !!!
– บี บางปะกง –