การผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย 3 สมัย ในปี 2006,2010,2014 ของ ไอวอรี่โคสต์ พร้อมกับการแจ้งเกิดของชาติใหม่ในโลกฟุตบอลที่ทุกคนจับตามองบรรดานักเตะชั้นดีจากชาติแห่งนี้ก้าวทะยานสู่ทวีปยุโรปและทีมชั้นนำมากมายไม่ว่าจะเป็น ดร็อกบา,โคโล่-ยาย่า ตูเร่,ซาลามอง กาลู,ตราโอเล่,วินฟรีด โบนีฯ เหล่านี้คือขุนพลฟุตบอลชั้นเอกของประเทศแห่งนี้ทั้งสิ้น บนพื้นที่ประมาณ 3 แสนตารางกิโลเมตรเศษประชากร 20 กว่าล้านคน พวกเขายกระดับการพัฒนาลูกหนังได้อย่างน่าสนใจ
ฟุตบอลคือสายเลือดแห่งความสุขและสายใยแห่งความรักของคนในประเทศล่าสุดเมื่อปี 2020 ที่ผ่านมา ไอวอรี่โคสต์ ตอบแทนความบ้าคลั่งของแฟนบอลและเดินหน้าสร้างแรงจูงใจให้เกิดนักเตะชั้นดีในประเทศเพื่อก้าวไปเหยียบสังเวียนลูกหนังชั้นดีของประเทศด้วยการเปิดสนามแข่งขันแห่งใหม่ภายใต้ชื่อ สตาเด เนชันแนล เด ลา โกส ติ วัวร์ หรือ สตาเด โอลิมปิเก เด เอ็มบิมเป อย่างเป็นทางการเมื่อเดือน ต.ค.63 ที่ผ่านมา
สนามแห่งนี้เต็มไปด้วยความสวยงามและมีเอกลักษณ์โดดเด่นสุดๆ มีความจุ 60,012 ที่นั่ง สร้างตั้งแต่ปี 2016 ด้วยงบประมาณ 257 ล้านเหรียญสหรัฐฯ(ประมาณ 7.7 พันล้านบาท) มีขนาดใหญ่กว่าสนามกีฬาแห่งชาติเดิมถึงเกือบ 2 เท่า และมีขนาดใหญ่เป็นอัดนับต้นๆของทวีปแอฟริกา ซึ่งการสร้างสนามแห่งนี้ได้บริษัทของจีน Beijing Institute of Architectural Design (BIAD) ออกแบบ ในขณะที่กระบวนการก่อสร้างดำเนินการโดย Beijing Construction Engineering Group (BCEG)
สตาเด เนชันแนล เด ลา โกส ติ วัวร์ หรือ สตาเด โอลิมปิเก เด เอ็มบิมเป กลายเป็นสนามที่ยอดเยี่ยมติดอันดับความเจ๋ง! 20 อันดับของโลกจากเวบไซต์ stadiumdb ที่มีการเปิดใช้งานในปี 2020 ที่ผ่านมา และมีความทันสมัยในการเป็นสนามกีฬายุคใหม่
Add friend ที่ @Siamsport