PA Media

ที่มาของภาพ, PA Media

คำบรรยายภาพ,

โรมัน อับราโมวิช เจ้าของสโมสรฟุตบอลเชลซี

การประชุมวาระพิเศษเร่งด่วนครั้งที่ 11 ของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ลงมติรับอย่างท่วมท้นรับร่างมติประณามรัสเซีย เมื่อ 2 มี.ค. ด้วยคะแนนเสียง เห็นด้วย 141 เสียง ไม่เห็นด้วย 5 เสียง และงดออกเสียง 35 เสียง จากสมาชิกทั้งหมด 193 ประเทศ

ด้าน นายโรมัน อับราโมวิช เจ้าของสโมสรฟุตบอลเชลซี ออกแถลงการณ์ผ่านเว็บของสโมสรว่า ได้ตัดสินใจขายสโมสร “เพื่อผลประโยชน์สูงสุดกับทั้งสโมสร แฟนบอล พนักงานทุก ๆ คน และยังรวมไปถึงผู้สนับสนุน ตลอดจนหุ้นส่วนของสโมสร”

มหาเศรษฐีด้านพลังงานรัสเซียวัย 55 ปี ผู้ถือสัญชาติอิสราเอลและโปรตุเกส ถูกกดดันอย่างหนักในสหราชอาณาจักรต่อข้อกล่าวหาที่เขาปฏิเสธว่าใกล้ชิดกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน มีเสียงเรียกร้องให้รวมเขาอยู่ในรายชื่อมหาเศรษฐีรัสเซียที่เพิ่งถูกคว่ำบาตรไป จนทำให้เขาต้องรีบขายทรัพย์สินในสหราชอาณาจักรออกมา รวมทั้งสโมสรเชลซี

“การขายสโมสรจะยังไม่เกิดขึ้นแบบเร่งด่วน แต่จะเป็นไปตามกระบวนการ ผมจะไม่ขอเงินที่สโมสรได้กู้คืนมาแต่อย่างใด สำหรับผมแล้ว สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นเรื่องของธุรกิจ หรือเงินทอง แต่มันเกี่ยวกับแพชชั่นของผมที่มีต่อเกมการแข่งขัน และสโมสรอย่างแท้จริง นอกจากนี้แล้ว ผมได้สั่งให้ทีมงานจัดตั้งมูลนิธิการกุศลเพื่อบริจาครายได้สุทธิทั้งหมดที่มาจากการขาย มูลนิธิจะเป็นประโยชน์อย่างสำคัญต่อผู้ที่ตกเป็นเหยื่อสงครามในยูเครน และยังรวมถึงการจัดหาเงินทุนสำหรับความประสงค์เร่งด่วนเพื่อช่วยสนับสนุนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสงครามอย่างเร่งด่วน ตลอดจนการสนับสนุน ฟื้นฟูในระยะยาว” เว็บไซต์ของเชลซีแปลคำแถลงของเขาเป็นภาษาไทย

ที่มาของภาพ, ฟุตบอล

คำบรรยายภาพ,

การประชุมวาระพิเศษเร่งด่วนครั้งที่ 11 ของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ

มติยูเอ็นท่วมท้น

ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติใน นครนิวยอร์ก สหรัฐฯ สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ มีมติท่วมท้น ยืนยันถึงอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนภายในพรมแดนยูเครน และตำหนิการรุกรานยูเครนโดยรัสเซียอย่างรุนแรงที่สุด โดยเรียกร้องให้รัสเซียหยุดใช้กำลัง และถอนกองกำลังออกจากยูเครนโดยทันที นอกจากนี้ ยังมีมติตำหนิเบลารุสด้วยที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้กำลังในยูเครน

ห้าชาติที่ไม่รับรองมตินี้ คือ รัสเซีย เบลารุส เกาหลีเหนือ ซีเรีย และเอริเทรีย ส่วนชาติที่งดออกเสียง ส่วนใหญ่มีความใกล้ชิดกับรัสเซีย เช่น จีน อินเดีย คิวบา เวียดนาม และลาว

หลังการลงมติ ดร. สุริยา จินดาวงษ์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก แถลงต่อที่ประชุมว่า ไทยได้พิจารณาร่างมติอย่างถี่ถ้วน เนื่องจากให้ความสำคัญกับหลักการตามกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการเคารพในบูรณภาพแห่งดินแดน และการไม่ใช้กำลังต่อรัฐ

มติประณามของสหประชาชาติ มีขึ้นในวันเดียวกับที่กองทัพรัสเซียถล่มเมืองสำคัญคือ คาร์คิฟ เมืองฝรั่งตะวันออก เคอร์ซอน เมืองฝั่งตะวันตก และมาริอูโปล เมืองท่าทางใต้ ซึ่งนายกเทศมนตรีของเมืองนี้บอกว่า มีพลเรือนเสียชีวิตหลายสิบคนจากจรวดและกระสุนปืนใหญ่ตกใส่ย่านพักอาศัย

สหประชาชาติระบุว่ายอดผู้อพยพจากการสู้รบพุ่งไปเกือบ 9 แสนคนแล้ว

ที่มาของภาพ, Reuters

คำบรรยายภาพ,

“ปูตินคิดว่าชาติตะวันตกและนาโตจะไม่ทำอะไรกับเรื่องนี้ เขาคิดว่าจะทำให้เราแตกแยกกันภายในได้ แต่เขาคิดผิด เราพร้อมแล้ว” นายไบเดนกล่าว

เผด็จการต้องชดใช้

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ กล่าวประณามและเตือนประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียว่า “เผด็จการจะต้องชดใช้” และ “หากผู้นำเผด็จการไม่ได้รับบทเรียน พวกเขาจะยิ่งสร้างความวุ่นวายหนักขึ้น”

ในการแถลงนโยบายประจำปีต่อรัฐสภา ผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่า ชาติตะวันตกนั้นพร้อมรับมือต่อการกระทำของรัสเซียที่รุกรานยูเครน ซึ่งเป็นการโจมตีชาติอื่นทั้งที่ไม่ได้เป็นฝ่ายถูกยั่วยุก่อน และยังมีการตระเตรียมวางแผนล่วงหน้ามาเป็นอย่างดี

“ปูตินคิดว่าชาติตะวันตกและนาโตจะไม่ทำอะไรกับเรื่องนี้ เขาคิดว่าจะทำให้เราแตกแยกกันภายในได้ แต่เขาคิดผิด เราพร้อมแล้ว” นายไบเดนกล่าว

“ประวัติศาสตร์ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า หากผู้นำเผด็จการไม่ได้รับบทเรียน ไม่ได้ชดใช้ต่อการกระทำที่ก้าวร้าวรุกรานของตนเอง พวกเขาจะยิ่งสร้างความวุ่นวายหนักขึ้น ภัยคุกคามและความเสียหายที่มีต่อสหรัฐอเมริกาและทั่วโลกก็จะยิ่งเพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ “

ประธานาธิบดีไบเดนยังกล่าวย้ำว่า นายปูตินและพวกพ้องที่ฉ้อราษฎร์บังหลวงจะต้องชดใช้ด้วยความสูญเสียที่มีมูลค่าสูงในระยะยาว โดยสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรในยุโรปจะดำเนินการอายัดทรัพย์สินของบุคคลเหล่านี้เพิ่มเติม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรือยอชต์ เครื่องบินส่วนตัว และสิ่งของหรูหรามีราคาอื่น ๆ

ผู้นำสหรัฐฯ ได้แสดงความชื่นชมต่อประชาชนชาวยูเครนที่เป็นเสมือน “ปราการแห่งความแข็งแกร่งที่ปูตินคาดไม่ถึง” ทั้งยังยกย่องประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ในความกล้าหาญและความมุ่งมั่นที่เป็นแรงบันดาลใจต่อผู้คนทั่วโลก

“ปูตินอาจใช้รถถังล้อมกรุงเคียฟเอาไว้ได้ แต่เขาจะไม่มีวันชนะใจประชาชนชาวยูเครนอย่างเด็ดขาด” นายไบเดนกล่าว

โบอิงระงับให้บริการที่มอสโก สหรัฐฯห้ามเที่ยวบินจากรัสเซียเข้าน่านฟ้า

บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินโบอิง (Boeing) ของสหรัฐฯ ประกาศว่าจะหยุดให้บริการกับลูกค้าและตัวแทนจำหน่าย รวมทั้งระงับการดำเนินงานที่สำคัญในกรุงมอสโกของรัสเซียลงทั้งหมด เพื่อเป็นการตอบสนองต่อมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียของชาติตะวันตก

โบอิงแถลงว่าจะงดให้บริการซ่อมบำรุง เปลี่ยนอะไหล่ หรืองานสนับสนุนทางเทคนิคอื่น ๆ แก่เครื่องบินของรัสเซียทั้งหมด โดยขณะนี้ได้ปิดสำนักงานในกรุงเคียฟ และหยุดทำการฝึกอบรมนักบินที่กรุงมอสโกแล้ว

มาตรการดังกล่าวของโบอิง สอดคล้องกับคำสั่งล่าสุดของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ห้ามเที่ยวบินจากรัสเซียไม่ว่าจะเป็นเที่ยวบินพาณิชย์หรือเที่ยวบินส่วนตัวของเอกชน ไม่ให้ล่วงล้ำเข้ามาในน่านฟ้าของสหรัฐฯ เป็นอันขาด ซึ่งเป็นมาตรการคว่ำบาตรแบบเดียวกับที่แคนาดาและสหภาพยุโรปประกาศใช้ไปก่อนหน้านี้

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ระบุในการแถลงนโยบายประจำปีต่อรัฐสภาว่า การห้ามเที่ยวบินของรัสเซียเข้าน่านฟ้าสหรัฐฯ จะยิ่งเพิ่มแรงกดดันและความเสียหายต่อเศรษฐกิจของรัสเซีย ซึ่งขณะนี้มูลค่าหุ้นในตลาดหลักทรัพย์รัสเซียตกลงไปราว 30-40% แล้ว

ที่มาของภาพ, State Emergency Service of Ukraine via EPA

คำบรรยายภาพ,

ภาพมหาวิทยาลัยคาร์คีฟที่ถูกยิงถล่มเมื่อ 2 มี.ค. 2022

รัสเซียยึดเมืองเคอร์ซอน ชาวยูเครนเรียนทำระเบิดขวดหลักสูตรเร่งรัด

มีรายงานว่าทหารรัสเซียสามารถเข้ายึดเมืองเคอร์ซอน (Kherson) ทางตอนใต้ของประเทศ ซึ่งติดกับคาบสมุทรไครเมียได้แล้ว หลังจากถูกปิดล้อมโจมตีอย่างหนักเมื่อวานจนมีผู้เสียชีวิตไปราว 200 ราย โดยภาพจากกล้องวงจรปิดของวันนี้แสดงให้เห็นรถหุ้มเกราะและทหารรัสเซียออกลาดตระเวนไปตามถนนสายต่าง ๆ ของเมือง

ส่วนที่เมืองคาร์คิฟ เมืองใหญ่อันดับสองของยูเครนซึ่งกำลังมีการสู้รบอย่างดุเดือด จนทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตไปถึง 17 รายเมื่อ 1 มี.ค. ล่าสุดมีรายงานว่ารัสเซียได้ส่งกองกำลังพลร่มบุกเข้าเมืองทางอากาศแล้วเมื่อช่วงเช้าตรู่ของ 2 มี.ค. หลังจากมีการยิงปืนใหญ่ทำลายอาคารที่อยู่อาศัยของประชาชน สถานีโทรทัศน์ และโรงพยาบาลทหาร ซึ่งประธานาธิบดียูเครนกล่าวประณามว่าเป็นอาชญากรรมสงครามและการก่อการร้ายอย่างเปิดเผย

นักวิเคราะห์หลายรายมองว่า รัสเซียเริ่มโจมตีบ้านเรือนของประชาชนชาวยูเครน เพื่อมุ่งทำลายขวัญกำลังใจในการเข้าช่วยรัฐบาลต้านทานกองทัพรัสเซีย

ส่วนที่เมืองชีโทเมียร์หรือเจโทมาร์ (Zhytomyr) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ อาคารที่พักอาศัยแห่งหนึ่งถูกยิงด้วยขีปนาวุธจนเกิดเพลิงไหม้ลุกลาม ทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 4 ราย ในขณะที่พลเรือนชายหญิงจำนวนมากของเมืองแห่งนี้กำลังเข้ารับการฝึกในหลักสูตรเร่งรัด เพื่อเรียนรู้วิธีทำระเบิดขวด รวมทั้งวิธีจุดไฟและขว้างระเบิดขวดเข้าใส่เป้าหมาย เช่นเดียวกับประชาชนที่กรุงเคียฟซึ่งกำลังจัดเตรียมระเบิดชนิดเดียวกันหลายพันขวดไว้ตามท้องถนน เพื่อเตรียมโจมตีกองกำลังรัสเซีย

ยูเครนอ้างความเสียหายของทัพรัสเซีย

เข้าสู่วันที่ 7 ของการรุกรานยูเครนโดยรัสเซีย ทหารของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ระดมกำลังโจมตีหลายเมืองของยูเครน ทั้งในทางตอนเหนือ ตะวันออก และตอนใต้ของประเทศ โดยพลร่มของรัสเซียเข้าถึงคาร์คีฟ เมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ ส่วนกองทัพยูเครนออกข่าวอ้างตัวเลขความเสียหายของฝ่ายรัสเซีย ว่าสังหารทหารัสเซียไปถึง 5,480 นาย ด้านกระทรวงกลาโหมของรัสเซียแถลงว่าทหารรัสเซียเสียชีวิต 498 นาย และอีกหลายพันคนได้รับบาดเจ็บในการต่อสู้กับกองกำลังยูเครน

บีบีซีไม่สามารถตรวจสอบความถูกต้องของตัวเลขได้

ที่มาของภาพ, Reuters/BBC Thai

บทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับ “วิกฤตยูเครน”