วันที่ 14 ตุลาคม 2565 เยอร์เกน คลอปป์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล อันดับ 10 พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่มี 10 คะแนนจาก 8 นัด ให้สัมภาษณ์ก่อนเกมบิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์นี้ ซึ่งจะเปิดบ้านต้อนรับ “แชมป์เก่า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รองจ่าฝูงที่มี 23 แต้มจาก 9 เกม คืนวันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคมนี้ แข่งขัน 22.30 น. ตามเวลาประเทศไทย
ด้านสื่อมวลชนยิงคำถามแรกกับ คลอปป์ เกี่ยวกับวิธีที่ ลิเวอร์พูล จะใช้รับมือ เออร์ลิง ฮาลันด์ ดาวยิงฟอร์มฮอตที่กดไปแล้ว 20 ประตูจาก 13 เกมในทุกรายการ นับตั้งแต่ย้ายจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาอยู่กับ แมนฯ ซิตี้ ในตลาดนักเตะซัมเมอร์นี้ พร้อมสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักเตะคนแรกที่ทำแฮตทริกในเกมพรีเมียร์ลีกที่เล่นในบ้าน 3 นัดติดต่อกัน (ชนะ คริสตัล พาเลซ 4-2, ชนะ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ 6-0 และชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 6-3)
อย่างไรก็ตาม คลอปป์ พูดถึง ลิเวอร์พูล ที่มักจะเสียประตูให้คู่แข่งก่อนในแต่ละเกมว่า “สิ่งเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้หากคุณเสียบอลในจังหวะที่ไม่ถูกต้อง” จากนั้นก็ระบุถึง 4 ปัญหาที่จะตามมา หากสนใจแค่การประกบ ฮาลันด์ ไม่ให้ยิงประตูว่า “ชัดเจนว่าเมื่อคุณต้องเจอกับใครสักคนที่เป็นกองหน้าที่ดีที่สุดในโลก คุณต้องแน่ใจว่าเขาจะไม่ได้บอลมากนัก นั่นคือสิ่งที่เราจะพยายาม
“แต่ชัดเจนว่ากับ ซิตี้ ปัญหาคือถ้าคุณใช้ผู้เล่นหลายคนเพื่อหยุด ฮาลันด์ คุณจะเปิดช่องว่างให้กับผู้เล่นระดับโลกคนอื่นๆ ทั้งหมด นั่นจะไม่ทำให้ชีวิตของคุณง่ายเลย มันเป็นความท้าทาย มันเป็นปัญหาในเกมฟุตบอลและเราจะพยายามหาทางแก้ไข”
“ตอนนี้เขายังหนุ่มแน่น คุณสามารถเห็นศักยภาพได้ว่ามันบ้ามากๆ ผมคิดว่าเขาอาจจะไม่ได้ออกสตาร์ตกับเราเนื่องจากปัญหาบาดเจ็บ หรืออาจถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรอง แต่ผมจำได้ว่าเราค่อนข้างยุ่งยากในการคิดถึงการรับมือเขา คุณจะหยุดเขาได้อย่างไร ไม่ว่ายังไงเขาก็จะหาทางทำประตูให้ได้อยู่ดี”
“เขาได้สร้างมาตรฐานใหม่ ทั้งในด้านกายภาพ, การผสมผสานระหว่างการใช้ร่างกาย, เทคนิค และสัญชาตญาณ การปรับตัวในสนามของเขานั้นยอดเยี่ยมมาก เขารู้เสมอว่าพื้นที่ว่างซึ่งเป็นจุดชี้ขาดอยู่ตรงไหน และแทบจะไม่ล้ำหน้าเลย”
“ที่ ซิตี้ ตอนนี้เขาถูกรายล้อมไปด้วยเหล่าผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลกที่พร้อมจะป้อนบอลให้ทำประตู ทั้ง เควิน เดอ บรอยน์, ริยาด มาห์เรซ, ฟิล โฟเดน, แบร์นาร์โด ซิลวา ดังนั้นมันจึงเป็นองค์ประกอบที่เหมาะสมอย่างยิ่ง”