“วินิจ”เผยไทยได้รับคำชมจัดแดงเดือด ชี้ “หงส์-ผี”สุดประทับใจ

วินิจ เลิศรัตนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล หัวเรือใหญ่จัด “แดงเดือด” นัดประวัติศาสตร์ที่ไทย แถลงสรุปภาพรวม “เดอะแมตช์” เผย 2 สโมสรชื่นชมและประทับใจการมาเยือนประเทศไทยครั้งนี้มากๆ ก่อนขอบคุณทีมงาน ภาครัฐและเอกชน ยื่นมือช่วยเหลือทุกด้านจนงานลุล่วง ระบุน้อมรับทุกคำติชม เพื่อปรับปรุงการจัดงานให้ดีขึ้นในรอบหน้า แย้มปี 2023 มี “บิ๊กอีเวนท์” อีกที่ไทย ชี้จัดงานรอบนี้ไม่ได้คำนึงว่าขาดทุนหรือต้องได้กำไรแต่แรก เพียงแต่อยากทำสิ่งยากๆให้เกิดขึ้นจริง และอยากให้ทั่วโลกได้เห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยและคนไทย ส่วนถ้วยรางวัลกำลังทำเคสประกอบ คาดใช้เวลาอีก 2 สัปดาห์ จะถูกส่งกลับไปยังแมนฯยูไนเต็ด

    นายวินิจ เลิศรัตนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด จัดงานแถลงข่าวสรุปภาพรวมและให้สัมภาษณ์ถึงความสำเร็จของการจัดศึกแดงเดือด “เดอะ แมตช์ แบ็งค็อก เซนจูรี่ คัพ 2022” ที่เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อกลางสัปดาห์ ที่เอสทีบี อะคาเดมี่ พระราม 9 เมื่อช่วงเย็นวันที่ 15 ก.ค.65 โดยก่อนการแถลงข่าว ผู้แทน จาก สมเด็จพระพันปีหลวงฎูฏาน ได้เดินทางมามอบของขวัญเพื่อขอบคุณ นย วินิจ ที่่ร่วมเชิญให้เข้าชมเกมแดงเดือดที่ไทยประเทศไทยด้วย

    ในงานแถลงข่าว นายวินิจ เปิดเผยถึงภาพรวมว่า ถึงแม้การจัดงานจะมีปัญหาและอุปสรรคต่างๆเกิดขึ้นมากมายตั้งแต่ก่อนเริ่มงาน ช่วงงานและหลังจบงาน แต่ต้องขอบคุณคณะทำงานนับ 3 พันกว่าคนที่ร่วมแรงร่วมใจกันทำหน้าที่ของตัวเอง ขอบคุณทั้งภาครัฐและเอกชนที่เข้ามาให้การสนับสนุนและช่วยเหลือในหลากหลายรูปแบบ และแฟนฟุตบอลไทยทุกๆคน ทั้งหมดถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ศึกแดงเดือดครั้งประวัติศาสตร์บนแผ่นดินไทยและเอเชีย ผ่านพ้นลุล่วงไปได้ด้วยดี

    นายวินิจ เผยต่อไปว่า ในงานเดอะแมตช์ฯครั้งนี้ ทั้งสโมสรลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้แสดงความชื่นชมที่เราสามารถบริหารจัดการในด้านต่างๆสนามฟุตบอล สนามฝึกซ้อม โรงแรมที่พัก ระบบรักษาความปลอดภัย ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมจนทั้งสองทีมประทับใจ และยังมีอีกหลายๆคำชื่นชมที่เราได้รับจากหลายๆหน่วยงานทั้งในไทยและต่างแดน อย่างไรก็ตามในทุกๆปัญหา อุปสรรค และคำวิจารณ์ที่เป็นประโยชน์ต่างๆที่เกิดขึ้น และตนและทีมงานยินดีน้อมรับและนำกลับมาปรับปรุงให้ดีขึ้น หากจัดงานในลักษณะดังกล่าวขึ้นอีกในอนาคตหลังจากนี้

    บอสใหญ่แห่งเฟรชแอร์ฯ ยังเผยถึงเรื่องถ้วยรางวัลที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้นไม่ได้นำกลับไปด้วย ก็เพราะว่าทีมต้องเดินทางไปทัวร์ต่อที่ประเทศออสเตรเลีย อีกทั้งถ้วยรางวัลสุดพิเศษที่เราตั้งใจทำขึ้นมา ก็มีน้ำหนัก 23 กก. ก็ถือว่าไม่น้อย ดังนั้นจึงตกลงกับสโมสรแล้วว่าจะจัดส่งตามให้ที่อังกฤษทีหลัง พร้อมกับเคสที่เราจัดทำขึ้นพิเศษ ซึ่งสโมสรก็จะนำถ้วยนี้ก็ไปวางอยู่ในตู้โชว์ของพิพิธภัณฑ์ของสโมสรที่อังกฤษด้วย ส่วนระยะเวลาที่จะจัดส่งได้ก็คาดว่าจะใช้เวลาอีกราวๆ 2 อาทิตย์ ถึงจะจัดเคสใส่ถ้วยรางวัลเสร็จ

     “ผมว่างานนี้นอกจากจะเป็นการยกระดับเรื่องของการจัดการแข่งขันกีฬาในบ้านเราให้ทั่วโลกได้เห็นและประจักษ์ถึงศักยภาพของเมืองไทยในการจัดงานและกิจกรรมต่างระดับโลกได้แล้ว ผมมองว่าเกมการแข่งขันของ 2 ทีมฟุตบอลดัง ที่นักเตะระดับโลกคับทีม ยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจ และเป็นการขับเคลื่อนความฝันได้อย่างดีของเยาวชนในไทย ที่อยากจะเป็นนักฟุตบอล ซึ่งงานนี้ผมก็ได้สำรองบัตรชมการแข่งขัน 2,000 ใบตั้งแต่แรกให้กับเด็กๆและคนด้อยโอกาสจากทั่วประเทศ ได้เดินทางเข้ามาชมเกมการแข่งขันนัดนี้แบบไม่เสียเงินด้วย”

    “ส่วนอนาคตหลังจากนี้ ทีมมีการแพลนไว้ว่าจะมีงานอีเวนต์ใหญ่เกิดขึ้นในประเทศไทยอีกอย่างแน่นอน อย่างเร็วที่สุด คงเป็นไปหน้า ส่วนตอนนี้ ผมเองก็ได้รับการติดต่อ 3-4 ดีล ให้ช่วยจัดงานระดับใหญ่ในประเทศไทยอีกหน ส่วนจะงานกีฬา ดนตรี หรืออื่นๆ ขอยังไม่แจ้งและลงรายละเอียดครับ แต่รับประกันว่ามีเกิดขึ้นแน่นอนในประเทศไทย”

    เมื่อผู้สื่อข่าวว่าในการจัดงานเดอะแมตช์ฯรอบนี้ บริษัทได้กำไรหรือขาดทุนเท่าไหร่ นายวินิจ เปิดเผยว่า สำหรับตนในการจัดงานครั้งนี้ จะเป็นผลบวกหรือผลลบ ขาดทุนหรือกำไร ตนไม่ได้มองจุดนั้นเป็นเรื่องหลักเลย เพราะถ้าคิดถึงจุดนี้เป็นเรื่องหลัก การแข่งขันเกมแดงเดือดนัดประวัติศาสตร์จะไม่เกิดขึ้นแน่นอน ซึ่งความตั้งใจเกิดจากที่เราอยากจะทำสิ่งที่ไม่ง่ายนักให้เกิดขึ้นจริง และเราก็ลงมือทำอย่างจริงจัง จนเกิดขึ้นจริง ต้องขอบคุณทุกภาคส่วน ทุกหน่วยงานและทีมงานทุกคนที่ช่วยทำให้งานประวัติศาสตร์เกิดขึ้นในเมืองไทย

    “ส่วนสนามที่ราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งเราใช้งบเกือบ 7 ล้านบาทในการปรับปรุงทั้งพื้นหญ้า หรืออุปกรณ์ต่างๆ เรายกให้กับทางการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) นำไปบริหารจัดการต่อ ซึ่งเราก็ได้ทำการคืนพื้นที่ใช้งานทั้งหมดให้กับกกท.ไปแล้ว ส่วนแฟนๆฟุตบอลท่านใดอยากจะสัมผัสและซึมซับบรรยากาศของทีมอยู่ เราก็ขอเชิญชวนทัวร์สนามฝึกซ้อมของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เอสทีบี อะคาเดมี่ พระราม 9 ได้เลย โดยจะเปิดให้เข้าชม 16-18 ก.ค.นี้ เวลา 09.00-18.30 น. โดยกิจกรรมจะแบ่งออกวันละ 6 รอบ จำกัดรอบละ 40 คน เงื่อนไขในการเข้าชมสามารถเข้าไปติดตามได้ที่เฟซบุ๊ค WH Cafe” นายวินิจ กล่าวทิ้งท้าย