Happiness is temporary, sad ness is not permanent, everything is there and it is extinguished. สุขก็แค่ชั่วคราว เศร้าก็ไม่ถาวร ทุกสิ่งมีเกิดขึ้นและดับไป
ฟุตบอลลีกคัพของเมืองไทย ได้ 3 ทีมสุดท้ายแล้ว คือ พีที ประจวบฯ, เชียงราย ยูไนเต็ด และชลบุรี เอฟซี และอีก 1 ทีมที่ยังไม่ได้เตะเพราะ ราชบุรี มิตรผล ต้องรอให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กลับมาจาก เกาหลีใต้ ก่อน
งานนี้อย่างน้อยๆ ก็มี 2 ทีมที่ใช้ คนไทย ทำทีม คือ “โค้ชอัจฉริยะ” สะสม พบประเสริฐ ของ ชลบุรี เอฟซี และ “โค้ชหระ” อิสระ ศรีทะโร ที่เพิ่งไปรับงานคุม พีที ประจวบ ได้ไม่นาน
ไม่หวังพึ่งใคร ประกิต ดีพร้อม เดินหน้าหาความยุติธรรมฟ้องศาลแรงงาน ขอเงินสี่แสนที่ อุดรธานี เอฟซี ยังไม่ยอมจ่าย ส่วนอีกหลายๆรายที่ถูกเบี้ยวอย่าง ดัสกร ทองเหลากับคณะถอดใจเพราะต้องเอาเวลาไปทำมาหากิน
นี่คือ ชะตากรรม ของ นักฟุตบอลอาชีพ ใน เมืองไทย ที่ต้องสู้กันตามลำพัง ทั้งๆที่อุตส่าห์มี ตัวแทน ไปนั่งทรงเกียรติ อยู่ใน สมาคมฟุตบอลฯ แต่ก็ไม่สามารถ ดูแลแก้ไข อะไรๆ ที่ นักเตะ ถูก เอารัดเอาเปรียบ ได้
ฟุตบอล เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก รอบคัดเลือก การท่าเรือ เอฟซี ต้าน อุลซาน ฮุนได ไม่ไหวพ่ายไป 0-3 ตามฟอร์ม แต่ที่น่าเสียดายคือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งอุตส่าห์ไปยันเจ้าบ้าน แดกู เอฟซี สำเร็จ 1-1 แต่ดันตีนบอดเตะลูกโทษเข้าแค่ 2 คน ตกรอบแบบน่าเจ็บใจ ปีหน้าว่ากันใหม่
“ไทยลีก” คู่เอกวันเสาร์พรุ่งนี้ บียู เตะชิงรองจ่าฝูงกับ เชียงราย ยูไนเต็ด ของ “ประธานฮาย” ปวิศรัฐฐ์ ติยะไพรัช ส่วนวันอาทิตย์ บีจีพียู ไปเยือน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ฝ่ายแรกก็มีเป้าหมายแย่งที่ 2 เหมือนกัน
ปิดท้ายวันนี้ ไม่ได้อยากซ้ำเติม แต่ไม่เขียนถึงเลยคงไม่ได้ ขอให้กรณีของ อิศเรศ น้อยใจบุญ เป็นเครื่องเตือนใจแก่บรรดานักกีฬาที่ควบคุมอารมณ์ไม่ได้เพราะยังไงก็ไม่คุ้มกับอนาคตที่ดับวูบไป ส่วนภาพลักษณ์ของฟุตบอลไทยไม่ต้องพูดถึง หันไปทางไหนก็เจอแต่คำว่า มวยไทย ไปบอลโลก เกลื่อนโซเชียล