6 ปัจจัย ที่ “บุรีรัมย์” จะได้เป็นเจ้าภาพ คัดบอลโลก หากเตะสนามกลาง


This image is not belong to us

จากกระแสข่าวที่จังหวัดบุรีรัมย์ เตรียมเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ทีมข่าวไทยรัฐสปอร์ต วิเคราะห์ 6 ปัจจัย ที่สนาม “ช้าง อารีนา” จะได้เป็นสังเวียนกลาง จัดการแข่งขันคัดบอลโลก โซนเอเชีย ในอีก 3 เกมที่เหลืออยู่ 

1.ไม่สามารถจัดการแข่งขันเหย้า-เยือนได้ 

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก ส่งผลให้การเดินทางไปมาหาสู่กันในแต่ละชาติในเอเชีย ทำได้ลำบาก โดยในปัจจุบัน เอเอฟซี ให้แต่ละชาติพูดคุยกันเองว่าสามารถแข่งขันได้หรือไม่ หากไม่สามารถแข่งขันได้ กระบวนการปรับรูปแบบการแข่งขันจึงเป็นขั้นตอนต่อไป 

2.เอเอฟซี สั่งให้หาเจ้าภาพ 

ผลพวงเมื่อไม่สามารถจัดการแข่งขันได้ตามปกติ เอเอฟซี จึงจำเป็นต้องหาวิธีการที่ดีที่สุด คือการแข่งขันสนามกลาง ซึ่งทาง เอเอฟซี ต้องการคำตอบจากชาติสมาชิกว่า สามารถแข่งขันในรูปแบบเหย้า-เยือนได้หรือไม่ หากไม่สามารถทำได้ เอเอฟซี จะเริ่มกระบวนการให้แต่ละกลุ่มหาสนามกลางแข่งขัน   

จากนั้นแต่ละชาติจะต้องเสนอแผนการจัดการแข่งขันให้ เอเอฟซี ได้รับทราบ เพื่อให้ เอเอฟซี พิจารณา ก่อนจะมีการประกาศแข่งขันอย่างเป็นทางการ 

3.ทีมร่วมสายยอมเตะที่ไทย

การแข่งขันที่สนามกลาง ย่อมสร้างความได้เปรียบเสียเปรียบกับบางทีม ดังนั้นจึงต้องพิจารณาถึงสถานการณ์ว่า แต่ละทีมจะยอมมาแข่งขันที่ประเทศไทยหรือไม่ เพราะตามข่าวที่ออกมา ทีมร่วมสายของไทย ไม่ว่าจะเป็น เวียดนาม, มาเลเซีย หรือยูเออี ต่างก็เกาะติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อความได้เปรียบในการเล่นเป็นเจ้าบ้าน ท่ามกลางสถานการณ์ที่สูสี ดังนั้นนี่จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะถูกนำมาพิจารณา 

4.ค่าใช้จ่าย

การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน แน่นอนว่าต้องมีค่าใช้จ่ายตามมาในการทำระบบ “บับเบิล ควอรันทีน” เพื่อทำให้ไล่ตั้งแต่การเหมาค่าโรงแรม, ค่าตรวจเชื้อ, การเดินทาง  ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงถึงหลัก 100 ล้านบาท (เมื่อเทียบจากระบบบับเบิล ควอรันทีน ของการแข่งขันกีฬาแบดมินตัน) ดังนั้นหากไทยจะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันที่สนามเป็นกลาง ประเทศไทยจะต้องแบกรับค่าใช้จ่ายส่วนนี้ หรือหาหน่วยงานเพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการแข่งขัน 

5.ระยะเวลา และนโยบายสาธารณสุข  

การดำเนินการจัดแข่งขันสนามกลาง ด้วยระบบ “บับเบิล” จำเป็นต้องมีระยะเวลาเตรียมการราว 3-4 เดือน ดังนั้นหากประเทศไทยและจังหวัดบุรีรัมย์จะรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ  จะต้องมีระยะเวลาเพื่อการดำเนินการในส่วนนี้

ระยะเวลาในอีกหนึ่งนัย คือ ระยะเวลาในการกักตัวของนักกีฬา หากยึดตามภาครัฐ ชาวต่างประเทศที่เดินทางเข้าไทยจะต้องกักตัว 14 วัน ซึ่งไม่แน่ใจว่าสำหรับการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ฟุตบอล ทางเอเอฟซี จะประเมินว่ายาวไปหรือไม่ และสามารถที่จะปรับลดระยะเวลาในช่วงการเข้า “บับเบิล” ด้วยการตรวจเชื้อมาตั้งแต่ต้นทางหรือไม่ 

เช่นเดียวกับ การตรวจเชื้อ ความถี่การตรวจเชื้อของนักกีฬาแต่ละชาติจะต้องตรวจเชื้อด้วยความถี่มากน้อยเพียงใด เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายสาธารณสุขในส่วนนี้ 

6.ความพร้อมของจังหวัดบุรีรัมย์ 

หากพิจารณาแล้ว จังหวัดบุรีรัมย์ ถือว่ามีความพร้อมสำหรับการแข่งขัน เนื่องจากผ่านการแข่งขันระดับนานาชาติมาหลายรายการ อีกทั้งยังเป็นจังหวัดที่มีความเข้มงวดในเรื่องมาตรการคุมเข้มโควิด-19 หากจะดำเนินการจัดการแข่งขันจริง น่าจะเป็นสิ่งที่ทางจังหวัดและทุกภาคส่วนสามารถจัดการแข่งขันได้. 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

คุณอาจสนใจข่าวนี้