อนิจจา อาร์เซน่อล – สยามกีฬา

อาร์เซน่อล และนาทีนี้กลายเป็นทีมตัวตลกในโลกโซเชี่ยลไปแล้วนะครับ

    พวกเขาถูกแฟนบอลทีมอื่นเอามาล้อเลียนกันอย่างสนุกสนานครื้นเครงเลยทีเดียว

    เฉพาะอย่างยิ่งหลังเปิดตัวในพรีเมียร์ลีกประจำฤดูกาล 2021-22 ด้วยความปราชัยต่อทีมน้องใหม่อย่าง เบรนต์ฟอร์ด แบบเสียน้องหมา

    แค่นัดแรกก็นำมาซึ่งความน่าละเหี่ยใจให้แฟนบอลของตัวเองอย่างจงหนัก

    และนี่คือสิ่งที่อดีตดาวเตะปืนโตยุครุ่งเรืองอย่าง เอ็มมานูเอล เปอตีต์ พูดถึงทีมตัวเองในยุคปัจจุบัน

    “ผมสูญเสียความนับถือ อาร์เซน่อล ไปทีละเล็กทีละน้อย พวกเขาไม่ใช่สโมสรที่มีเสน่ห์ดึงดูดอีกต่อไป แล้วถามว่าใครอยากจะไปที่นั่นละ?”

    ขณะที่ดาวเตะในตำนานของ อาร์เซน่อล อีก 1 คนอย่าง พอล เมอร์สัน กล่าวว่า…

    “ผมคิดว่าเรายึดติดกับ อาร์เซน่อล เมื่อ 20 ปีที่แล้วมากเกินไปหน่อย วันดีๆ แบบนั้น มันผ่านไปแล้ว,  ปี 2004 มันผ่านไปแล้ว แต่เราก็ยังคงยึดติดกับอดีตของ อาร์เซน่อล แล้วดูสถานภาพของเราในตอนนี้สิ นี่แหละ อาร์เซน่อล ตัวจริงในปัจจุบัน”

    อาการแบบเรียกว่า “กูเบื่อ” นะครับ

    เข้าใจว่า “เดอะ กูนเนอร์ส” ส่วนใหญ่คงจะตกอยู่ในอาการแบบนี้เช่นกัน

    ถามว่าเกิดนรกอะไรขึ้นกับ อาร์เซน่อล ???

    ก่อนหาคำตอบ ขอนำทุกท่านย้อนกลับไปชมภาพช้าของผลงานพวกเขาเมื่อฤดูกาลที่แล้ว

    อาร์เซน่อล จบด้วยอันดับที่ 8 ของตารางพรีเมียร์ลีก ต่ำที่สุดในรอบ 26 ปี อดไปเล่นในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นฤดูกาลที่ 5 ติดต่อกัน แถมอันดับต่ำกว่าคู่แค้นแบบฆ่าล้างโคตรของตัวเองด้วย

    ยูโรปา ลีก ก็โดนถีบตกรอบรองชนะเลิศ

    เอฟเอ คัพ ในฐานะแชมป์เก่า โดนถีบตกแค่รอบ 4

    ลีก คัพ ก็ได้เล่นแค่ 2 นัด

    ถือเป็นผลงานที่ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง

    เกมแรกของฤดูกาลเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา หากดูจากตัวผู้เล่น แม้จะดูดีมีชาติตระกูลกว่าสโมสรผึ้งน้อยอย่าง เบรนต์ฟอร์ด แต่อยากใช้คำว่าเป็นตัวผู้เล่นที่ “ดาดๆ มาก” ว่าแล้วขอความกรุณาแฟนบอลทีมปืนโตอย่าถือโทษโกรธเคืองที่ผมพูดตรงๆ

    ปัญหาเรื้อรังของพวกเขาอยู่ที่เกมรับที่มักจะเสียประตูง่ายๆ ดื้อๆ แบบไม่มีเหตุผลและไม่ต้องการความเข้าใจใดๆ ทั้งสิ้น 

    ขณะที่เกมรุก เมื่อไม่มีดาวยิงอย่าง ปีแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง หรือ อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ ก็กลายเป็นสากกะเบือไปเลย

    เหนือสิ่งอื่นใดคือไม่มีความสม่ำเสมอ เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย เอ่แน่เอานอนอะไรไม่ได้เลย 

    มรดกที่ อาร์แซน เวนเกอร์ ทิ้งเอาไว้ให้ก่อนอำลำตำแหน่งคือรูปแบบการเล่นอันสวยงาม

    จุดนี้พบว่ายังพอมีติดตัวพวกเขาอยู่บ้าง เอกลักษณ์ของทีมปืนโตคือการเล่นที่เป็นระบบ อาศัยทีมเวิร์คค่อยๆ ต่อบอลและทำชิ่งกันในจังหวะจู่โจม แต่กลับปราศจากความเฉียบคมและเด็ดขาด

    ต่อเมื่อมีโอกาสก็มักจะเอามันไปยัดลงโถส้วม โดยมักเสียประตูง่ายๆ เหมือนเดิม แม้จะได้ปราการหลังตัวใหม่มาเสริมแล้วก็ตาม

    ย้อนกลับไปที่คำให้การของ เอ็มมานูเอล เปอตีต์ อีกครั้ง

    อาร์เซน่อล ปราศจากเสน่ห์ดึงดูดด้วยผลงานในระยะหลังของพวกเขาจริง

    ผลงานยิ่งแย่ก็ยิ่งไร้แรงดึงดูด คุณภาพของขุมกำลังก็จะลดลงไปเรื่อยๆ ทั้งที่ความจริง อาร์เซน่อล เป็นสโมสรที่มีความมั่งคั่งและร่ำรวยพอสมควร

    ในการจัดอันดับสโมสรที่มีมูลค่ามากที่สุดหรือร่ำรวยมากที่สุด อาร์เซน่อล ก็ติด “ท็อปเท็น” มาตลอด

    บ้านของพวกเขาอย่าง เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เคยมีขนาดความยิ่งใหญ่เป็นรองแค่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เพียงแห่งเดียวเท่านั้นในเมืองหลวงลูกหนัง และถ้าวัดกับทีมในอังกฤษด้วยกัน ความนิยมของ อาร์เซน่อล ก็เป็นรองแค่ แมนฯ ยูไนเต็ด กับ ลิเวอร์พูล เท่านั้น

    หมายความว่า อาร์เซน่อล เป็นทีมที่มีเงินเยอะแน่นอน

    แล้วทำไมถึงปล่อยให้ตัวเองตกต่ำได้ถึงขนาดนี้

    บางทีอาจต้องไปดูเจ้าของสโมสรของพวกเขา – โครเอนเก้ สปอร์ตส์ & เอนเตอร์เทนเมนต์ ซึ่งเจ้าของกิจการสโมสรกีฬาอย่าง แอลเอ แรมส์ (เอ็นเอฟแอล), เดนเวอร์ นัคเก็ตส์ (เอ็นบีเอ), โคโลราโด้ ราปิดส์ (เอ็มแอลเอส)

    โคตรมหาเศรษฐีชาวอเมริกันอันตรายอย่าง สแตน โครเอเก้ เข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรปืนโตเป็นของตัวเองนับตั้งแต่ปี 2011 

    นโยบายชัดเจนครับว่าเน้นการทำธุรกิจลูกหนังด้วยคำนึงถึงผลประโยชน์ของตัวเองมากกว่าความสุขและเสียวซ่านของแฟนบอล

    ล่าสุดจากผลสำรวจของแฟนบอลในพรีเมียร์ลีกที่มีต่อเจ้าของสโมสรตัวเอง

    ปรากฏว่าเจ้าของทีมปืนโตอยู่ในอันดับที่ 19 ของตาราง เหนือกว่าเจ้าของทีม นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เพียงทีมเดียว และอันดับต่ำกว่า เกลเซอร์ ฟัคกลิ้ง แฟมิลี่ ของ แมนฯ ยูไนเต็ด เสียอีก

    ตอนที่ อาร์เซน่อล ตกเป็นของ โครเอนเก้ สปอร์ตส์ & เอนเตอร์เทนเมนต์ ณ ขณะนั้น อาร์แซน เวนเกอร์ ยังคงเป็นผู้จัดการทีมปืนโต

    อาร์เซน่อล อาจไม่ได้แชมป์ลีกสูงสุดก็จริง แต่ก็ยังจัดอยู่ในประเภท “บิ๊กโฟร์” ที่ได้ไปเล่นในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นประจำ แถมคว้าแชมป์บอลถ้วยอย่าง เอฟเอ คัพ เป็นระยะจนสถาปนาตัวเองเป็นเจ้าพ่อบอลถ้วยศักดิ์สิทธิ์อันดับ 1 ของอังกฤษ

    อย่างไรก็ตาม

    กุนซือมาดละเมียดถูกแฟนบอลตัวเองวิพากษ์-วิจารณ์อย่างหนักว่ายึดติดกับระบบของตัวเองมากเกินไปจนไม่ยอมใช้ความร่ำรวยของสโมสรตัวเองให้เป็นประโยชน์

    ในช่วงปลายยุคสมัยของ อาร์แซน เวนเกอร์ – อาร์เซน่อล ลงทุนซื้อผู้เล่นระดับดาวดังอย่าง เมซุต โอซิล, อเล็กซิส ซานเชซ หรือ ปีแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง มาร่วมทีมก็จริง ทว่าไม่เพียงพอต่อความต้องการของแฟนบอล ทว่าขณะเดียวกันดาวดังต่างก็ทยอยกันย้ายทีมออกไปเช่นกัน เพราะต้องการทั้งความสำเร็จ และค่าเหนื่อยที่มากขึ้น

    แฟนบอลเริ่มเอือมระอากับการทำงานของกุนซือชาวฝรั่งเศสที่อยู่มานานพลางต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงด้วยมองโลกในแง่ดีว่ามันน่าจะนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองมากกว่าเดิมที่เริ่มตายซาก

    ไม่ผิดที่จะคิดแบบนั้น – ในเมื่อของเก่ามันไม่มีอะไรดีขึ้นจริงๆ

    สุดท้าย อาร์แซน เวนเกอร์ ก็ต้องแยกทางกับ อาร์เซน่อล ตามระเบียบ

    เพียงแต่หลังจากการเปลี่ยนแปลง อาร์เซน่อล ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะกลับมายิ่งใหญ่ และไม่มีลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกอยู่ดีนั่นแหละ พวกเขาสู้ทีมในระดับพญายักษ์ด้วยกันอย่าง แมนฯ ซิตี้, เชลซี, ลิเวอร์พูล และแมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ได้ โดยไม่เว้นแม้แต่ เลสเตอร์ ซิตี้

    ตัวแทนของ อาร์แซน เวนเกอร์ อย่าง อูไน เอเมรี่ ก็อยู่ได้ไม่นาน 

    กุนซือคนปัจจุบันอย่าง มิเกล อาร์เตต้า ที่แบ่งบารมีมาจากการเป็นผู้ช่วยของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ช่วยให้ อาร์เซน่อล คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ทันที ซึ่งเหมือนจะดูดีมีอนาคต

    สุดท้ายก็อย่างที่เห็นนี่แหละครับ

    ในเมื่อคุณภาพของผู้จัดการทีมด้อยกว่าคู่แข่ง สิ่งที่ต้องทำคือปรับปรุงขุมกำลังให้แข็งแกร่งที่สุด เพื่อห้ำหั่นกับคู่แข่งอย่างสูสีมากยิ่งขึ้น

    ฤดูกาลนี้ อาร์เซน่อล เพิ่งได้เซ็นเตอร์แบ็คตัวใหม่อย่าง เบน ไวท์ มาร่วมทีมเพียงคนเดียว แถมราคาแพงเกินจริงอีกต่างหาก ขณะที่ แมนฯ ซิตี้, แมนฯ ยูไนเต็ด และเชลซี ต่างเสริมทัพกันอย่างเพลิดเพลิน

    ยิ่งเปิดฉากอย่างน่าละเหี่ยใจแบบนี้ ดูทรงแล้วขอเรียนว่าอาการน่าเป็นห่วง

    ล่าสุดมีข่าวว่าพวกเขาเตรียมปลด มิเกล อาร์เตต้า ออกจากตำแหน่งแล้วจะกระชากกุนซือระดับอ๋องอย่าง อันโตนิโอ คอนเต้ ที่ยังว่างงานอยู่มาแทน

    อืมมมมมม…นะ

    คือถ้าผมเป็นแฟนบอลทีมปืนใหญ่หัวใจคงโป่งพอง

    ต่อเมื่อตรึกตรองอย่างถี่ถ้วน

    ถามจริงๆ เถอะว่าด้วยนโยบายของ โครเอนเก้ สปอร์ตส์ แอนด์ เอนเตอร์เทนเมนต์ คุณคิดเหรอว่าผู้จัดการทีมที่หัวแข็งกว่า “จั๊กเกอร์นอท” จะยอมมาคุมทีมที่เน้นธุรกิจมากกว่าความสำเร็จ ???

    นี่คือผลจากการที่คุณมีเจ้าของทีมเฮงซวยนะครับ

    และมันคือคำตอบของคำถามที่ว่ามันเกิดนรกอะไรขึ้นกับ 

    อาร์เซน่อล ???

    ตอนมี อาร์แซน เวนเกอร์ ก็ยังพอทำเนา เพราะอย่างน้อยด้วยความเชี่ยวชาญ ด้วยความคุ้นเคยจนกลายเป็นเนื้อเดียวกับสโมสรบวกด้วยความสามารถอันคับตูด เจ๊แกยังช่วยประคับประคองทีมให้ติดท็อปโฟร์พลางไปเล่นในศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้อย่างเป็นสม่ำ 

    ตอนนี้ อาร์เซน่อล กลับกลายเป็นสโมสรที่ไร้เสน่ห์ดึงดูดไปแล้วจริงๆ

    กระนั้นผมอยากให้แฟนบอลของทีมปืนใหญ่มองโลกในแง่ดีที่ฉาบด้วยสีชมพู 

    อย่าลืมว่าฤดูกาลใหม่เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น เส้นทางยังเหลืออีกยาวไกล

    คิดง่ายๆ ว่าหลังจากเปิดซีซั่นด้วยการเป็นทีมบ๊วยของตาราง 

    แต่หลังจากผ่านไป 3 วัน อาร์เซน่อล ถีบตัวเองออกจากตำแหน่งบ๊วยพลางไต่ขึ้นมาอยู่ในอันดับ 17 ของตารางได้สำเร็จแล้วโดยไม่ต้องแข่งด้วยซ้ำ

    มิหนำ ณ ตอนนี้ ยังมีแต้มเท่ากับแชมป์เก่าอย่าง แมนฯ ซิตี้ อีกต่างหาก 

    ขอแสดงความยินดีกับบรรดา “เดอะ กูนเนอร์ส” ด้วยนะครับ

    บอ.บู๋